จับตาทิศทางเศรษฐกิจ-ผลประชุมเฟด ดาวโจนส์ ติดลบ 173 จุด

  • นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มที่ได้รับผลดีจากการคลายล็อกดาวน์ที่ราคาพุ่งไปก่อนหน้าเพื่อทำกำไร
  • หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งต่อ ดันดัชนีแนสแด็กทำลายสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ทะลุ 10,000 จุด
  • เงินเฟ้อลดลง 0.1% ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ในเดือนพ.ค.แต่ดีขึ้นกว่าเดือนก่อนหน้า

เมื่อเวลา 21.05 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิสยังคงมีแรงซื้อต่อเนื่อง ส่งผลให้ดัชนีเดินหน้าทำลายสถิติสูงสุดต่อเนื่อง โดยปรับขึ้นไปทะลุ 10,000 จุดครั้งแรกในประวัติศาสตร์โดยมีแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของหุ้นเทคโนโลยี โดยหุ้นแอปเปิ้ลเพิ่มขึ้น 2.18% หุ้นไมโครซอฟท์เพิ่มขึ้น 1.31% และหุ้นกูเกิ้ลเพิ่มขึ้น 0.94% ล่าสุดดัชนีอยู่ที่ 10,014.89 จุดเพิ่มขึ้น 61.14 จุด หรือ +0.61%

ขณะที่ยังมีแรงเทขายทำกำไรต่อเนื่องในหุ้นที่ราคาเพิ่มขึ้นในช่วงก่อนหน้า ในกลุ่มที่ได้รับผลดีจากการคลายล็อกดาวน์ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 27,098.40 จุด ลดลง 173.90 จุดหรือ -0.64% ด้านดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,200.93 จุด ลดลง 6.25 จุด หรือ-0.19%

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันนี้ โดยมองหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ย โดยเฟดจะเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในคืนนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว หลังจากที่ได้ระงับการเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ในเดือนมี.ค. ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้มีการปิดเศรษฐกิจสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนคาดว่า นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะเน้นย้ำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยไม่จำกัดวงเงินและเวลา เพื่อรักษาสภาพคล่องในตลาดต่อไป

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ลดลง 0.1% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับดัชนี CPI ที่ดิ่งลง 0.8% ในเดือนเม.ย. นอกจากนั้น เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ค. หลังจากดีดตัวขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย.

ขณะที่สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยดีดตัวขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว แม้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับตัวขึ้น โดยผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 5% ในสัปดาห์ที่แล้ว และพุ่งขึ้น 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว