ค้นพบเครื่องหมายโมเลกุลใหม่ ร่นระยะเวลาปรับปรุงพันธุ์มันสำปะหลัง ต้านทานโรค

  • กรมวิชาการเกษตร ปลื้ม
  • ใช้เป็นเครื่องมือในการคัดเลือกพันธุ์
  • เพื่อการปรับปรุงพันธุ์จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปรับปรุงพันธุ์ได้

นายระพีภัทร์  จันทรศรีวงศ์  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทคนิคด้านเทคโนโลยีชีวภาพเข้ามามีบทบาทด้านการเกษตรเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในงานปรับปรุงพันธุ์พืชให้มีลักษณะที่ดีตรงตามความต้องการ เช่น เทคโนโลยีเครื่องหมายโมเลกุลมีประโยชน์ในการศึกษาความหลากหลายทางพันธุกรรมและการจำแนกพันธุ์  รวมทั้งบางเครื่องหมายโมเลกุลยังมีความสัมพันธ์กับลักษณะทางการเกษตร เช่น ผลผลิตสูง ไซยาไนด์ต่ำ และความต้านทานโรค  ซึ่งการนำเครื่องหมายโมเลกุลที่สัมพันธ์กับลักษณะทางการเกษตรเหล่านี้มาใช้เป็นเครื่องมือในการคัดเลือกพันธุ์เพื่อการปรับปรุงพันธุ์จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปรับปรุงพันธุ์ได้

ทั้งนี้จากปัญหาการลดลงของผลผลิตมันสำปะหลังมีสาเหตุสำคัญมาจากโรคพืช เช่น โรคใบด่างมันสำปะหลัง และโรครากปม คณะนักวิจัยจากสำนักวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ  กรมวิชาการเกษตร จึงได้วิจัยพัฒนาเครื่องหมายโมเลกุลที่สัมพันธ์กับลักษณะปริมาณไซยาไนด์ต่ำ ความต้านทานโรครากปมและโรคใบด่างมันสำปะหลัง และนำมาใช้ในคัดเลือกพันธุ์มันสำปะหลัง  ผลการวิจัยพัฒนาได้เครื่องหมายโมเลกุลชนิดสนิปส์ จำนวน 3 เครื่องหมาย  เพื่อใช้คัดเลือกพันธุ์มันสำปะหลังที่มีความต้านทานโรคใบด่างมันสำปะหลัง ไซยาไนด์ต่ำ และต้านทานโรครากปม  ซึ่งมันสำปะหลังที่เป็นโรครากปมจะไม่แสดงอาการผิดปกติใดๆ ที่จะทำให้ทราบว่ามันสำปะหลังถูกไส้เดือนฝอยทำลาย  ดังนั้นเกษตรกรจึงไม่ทราบว่าผลผลิตหัวมันสำปะหลังมีปริมาณและคุณภาพเป็นอย่างไร  หลังจากที่ต้องใช้เวลาในการปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวนาน 10-12 เดือน

สำหรับเครื่องหมายโมเลกุลชนิดสนิปส์ มีประโยชน์ในการจำแนกพันธุ์และคัดเลือกพันธุ์พืชที่มีลักษณะที่ต้องการ  โดยหากเครื่องหมายสนิปส์มีตำแหน่งใกล้กับยีนควบคุมลักษณะมากเท่าใด ความแม่นยำในการคัดเลือกพันธุ์พืชยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น  ซึ่งผลการคัดเลือกพันธุ์มันสำปะหลังจำนวน 250 พันธุ์โดยใช้เครื่องหมายสนิปส์ทั้ง 3 ลักษณะ   สามารถคัดเลือกได้กลุ่มพันธุ์ที่มีแนวโน้มต้านทานโรคใบด่างและไซยาไนด์ต่ำ จำนวน 9 พันธุ์  และกลุ่มพันธุ์ที่มีแนวโน้มต้านทานทั้งโรคใบด่างและโรครากปม จำนวน 4 พันธุ์  ซึ่งผลการทดสอบความถูกต้องของเครื่องหมายโมเลกุลในการคัดเลือกพันธุ์พบว่าทั้ง 3 เครื่องหมายที่พัฒนาขึ้นมีความถูกต้องมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ถือว่ามีประสิทธิภาพสูงในการคัดเลือกพันธุ์   โดยนักปรับปรุงพันธุ์สามารถนำเครื่องหมายสนิปส์ทั้ง 3 ชุดไพรเมอร์ไปใช้ในการคัดเลือกพันธุ์มันสำปะหลังเพื่อพัฒนาพันธุ์ดีให้แก่เกษตรกรได้  เนื่องจากสามารถเลือกเฉพาะต้นที่มีแถบดีเอ็นเอที่มีลักษณะที่ต้องการไว้  เป็นการเพิ่มความแม่นยำในการคัดเลือกลักษณะทางการเกษตรที่ต้องการ  

“การคัดเลือกพันธุ์พืชด้วยเครื่องหมายโมเลกุลมีประโยชน์ต่อการปรับปรุงพันธุ์อย่างมาก  เนื่องจากช่วยลดจำนวนพืชที่จะปลูกเพื่อคัดเลือก  ระยะเวลาในการปรับปรุงพันธุ์  ทำให้สามารถลดพื้นที่ปลูก แรงงาน และค่าใช้จ่าย ได้ถึง 10 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับการคัดเลือกแบบเดิมที่ใช้ลักษณะปรากฏ   อีกทั้งสามารถตรวจคัดเลือกได้หลายลักษณะพร้อมกัน   รวมทั้งเครื่องหมายสนิปส์ด้วยเทคนิค Tetra-Primer ARMS–PCR นี้ มีความสะดวก  ใช้งานได้ง่าย  ไม่ต้องใช้บุคลากรที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน  และยังมีต้นทุนการตรวจสอบเพียง 10 บาทต่อการตรวจสอบสนิปส์ 1 ตำแหน่ง  เมื่อเทียบกับเทคนิคอื่นๆ   หน่วยงานต่างๆ สามารถนำเครื่องหมายสนิปส์ทั้ง 3 ชุดไพรเมอร์ไปใช้คัดเลือกพันธุ์ได้ทันที    ทั้งนี้เครื่องหมายสนิปส์ลักษณะความต้านทานโรคใบด่างมันสำปะหลังสามารถนำไปใช้ต่อยอดในงานวิจัยการใช้เครื่องหมายโมเลกุลในการคัดเลือกลักษณะต้านทานโรคใบด่างมันสำปะหลังซึ่งดำเนินการในปี 2565 – 2567 ได้

 “ได้ขอจดอนุสิทธิบัตรเครื่องหมาย สนิปส์ของลักษณะปริมาณไซยาไนด์ต่ำในนามของกรมวิชาการเกษตรเรียบร้อยแล้ว  หน่วยงานใดหรือผู้ที่สนใจนำเครื่องหมายสนิปส์ทั้ง 3 ชุดไพรเมอร์ไปใช้คัดเลือกพันธุ์ ”