วันที่ 9 ส.ค.2564 นายกณิศ อ่ำสกุล นักวิเคราะห์ ศูนย์วิจัย Krungthai Compass ระบุว่า เป็นที่ทราบกันว่าตลาดที่อยู่อาศัยแนวสูง หรือ คอนโดฯ ของไทยในระยะ 2-3 ปีหลังอยู่ในภาวะที่ไม่สดใสนักเนื่องจากต้องเผชิญกับปัจจัยกดดันต่าง ๆ ทั้งเกณฑ์กำกับ Loan to Value Ratio (LTV) ใหม่ และการแข็งค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินหยวนในปี 2562 ตลอดจนการระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลให้ผู้บริโภคเริ่มหันมานิยมที่อยู่อาศัยแนวราบที่ตอบโจทย์การทำงานที่บ้าน (WFH) ได้ดีกว่าคอนโดฯ ผิดกับคอนโดฯ ที่แม้จะมีการจัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายแต่กลับไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร
โดยเฉพาะกับ “ข้อจำกัดด้านการเดินทางระหว่างประเทศ” ที่ส่งผลให้ชาวต่างชาติไม่สามารถเดินทางเข้ามาซื้อคอนโดฯ ในไทยได้อย่างสะดวกนัก มูลค่าโอนคอนโดฯ ไทยของชาวต่างชาติในปี 2563 จึงติดลบถึง 25.5% ต่อปี(YoY) ภายใต้สภาวะดังกล่าว แม้ภาครัฐจะมีแนวคิดกระตุ้นกำลังซื้อต่างชาติด้วยการขยายสัดส่วนที่คนต่างชาติจะถือกรรมสิทธิ์ (Foreign Quota) จากเดิม 49% เป็น 70-80% แต่กลับเริ่มมีข้อกังวลว่าคอนโดฯ ในไทยยังเป็นที่น่าสนใจของผู้ซื้อต่างชาติอยู่หรือไม่?
บทความนี้จึงอยากชวนผู้อ่านไปทำความรู้จักกับตลาดคอนโดฯ ไทยของชาวต่างชาติ พร้อมวิเคราะห์ความน่าสนใจของคอนโดฯ ไทยในมุมผู้ซื้อต่างชาติ
ตลาดคอนโดฯ ไทยที่ขายให้กับชาวต่างชาติมีมูลค่าเฉลี่ยในช่วง 3 ปีย้อนหลัง (ปี 2561-2563) ราวปีละ 48,500 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 12.1-16.3% ของมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์คอนโดฯ ทั้งประเทศ แบ่งเป็นมูลค่าตลาดในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลที่ปีละ 34,000 ล้านบาท และอีกปีละ 14,500 ล้านบาทในตลาดต่างจังหวัด
ทั้งนี้ สังเกตได้ว่าข้อจำกัดด้านการเดินทางระหว่างประเทศจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างมากต่อความต้องการซื้อคอนโดฯ ในไทย สะท้อนจากมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ของชาวต่างชาติที่ลดลง 25.5%ต่อปี ในปี 2563 และสัดส่วนมูลค่าโอนคอนโดฯ ของชาวต่างชาติต่อมูลค่าโอนคอนโดฯ ในไทยทั้งหมด (Implied Foreign Quota) ที่ลดลงในทุกพื้นที่
ส่วนตลาดคอนโดฯ ไทยยังมีจำนวนคำสั่งซื้อ และการสอบถามรายละเอียด (Enquiry) ยังติด Top 3 อันดับแรกในเว็บไซต์ซื้อขายอสังหาฯ ในต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในจีน แม้ไทยจะต้องเสียตำแหน่งประเทศที่ชาวจีน นิยมซื้อคอนโดฯ มากที่สุดไปจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ คอนโดฯ ไทยก็ยังติดอยู่ใน 3 อันดับแรกที่ชาวจีนนิยมอยู่ในปัจจุบัน
เมื่อเปรียบเทียบกับคอนโดฯ ในประเทศอื่นๆ ที่ชาวจีนนิยมซื้อ พบว่าคอนโดฯ ไทยมีข้อได้เปรียบอยู่ 3 ด้าน คือ 1) ราคาที่เข้าถึงง่าย 2) คนไทยคุ้นชินกับชาวจีน และ 3) ระบบสาธารณสุขที่มีคุณภาพ จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ชาวจีนกลับมาซื้อคอนโดฯ ในไทยอีกครั้ง เมื่อประเทศสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้อย่างเต็มที่
สำหรับ คอนโดฯ ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล คาดว่าทำเลที่จะได้รับประโยชน์จากการกลับมาของกำลังซื้อต่างชาติ คือ สุขุมวิท สาทร อโศก รัชดา และพระราม 9 ส่วนในต่างจังหวัด คาดว่าคอนโดฯ ในจังหวัดท่องเที่ยว อาทิ ชลบุรี ภูเก็ต เชียงใหม่ และประจวบฯ จะเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่ได้รับประโยชน์จากกำลังซื้อต่างชาติ
