- เพราะช่วงโควิด ได้วางรากพื้นฐานแล้ว
- หันพึ่งเศรษฐกิจในประเทศมากขึ้น
- อย่ากลัวและกังวลเรื่องนักท่องเที่ยวจีน
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยถึงกรณีที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ออกมาเตือนว่า ปีนี้เศรษฐกิจโลกจะถดถอยหนักกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากเศรษฐกิจใน 3 ประเทศหลัก คือ สหรัฐฯ จีน และกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) จะถดถอยหนักนั้น เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย เนื่องจากเศรษฐกิจประเทศไทย ได้ปรับพื้นฐานการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงการแพร่ระบาดไวรัสโควิดเมื่อ 2 -3 ปีที่ผ่านมา ด้วยการกระตุ้นให้เกิดการบริโภคภายในประเทศ การพึ่งพาเศรษฐกิจมากย่ิงขึ้น และยังเป็นแหล่งผลิตอาหาร ถือว่าเป็นภูมิคุ้มกันเศรษฐกิจไทย ประกอบกับได้มีการเปิดประเทศ ก็จะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก่อให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอีกทางหนึ่งด้วย จึงเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไปได้
ขณะที่การกู้เงินจากต่างประเทศก็มีสัดส่วนน้อยมากเพียง 1 % ของเงินกู้ทั้งหมด เนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาล ได้ใช้เงินกู้ส่วนใหญ่จากแหล่งเงินในประเทศเป็นหลัก ดังนั้นเชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย จะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากนัก อย่างไรก็ตามก็ต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิดด้วย
นายสันติ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีจีนเปิดประเทศ จะส่งผลให้นักท่องเที่ยวจากจีน เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากย่ิงขึ้นนั้น ถือเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจไทย ส่วนความกังวลกลัวว่านักท่องเที่ยวจีน จะนำโควิดกลับมาระบาดในประเทศไทยนั้น เชื่อว่ากระทรวงสาธารณสุข จะมีมาตรการตรวจอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ควรเข้มงวดจนเกินไปหนัก เพราะเมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวไทยจำนวนมาก ก็จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทย
และในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลได้รณรงค์ให้ฉีดวัคซีนโควิดไปจำนวนมากแล้ว อย่างน้อยคนละ 2-3 เข็ม คิดเป็น 70% ของจำนวนประชากร และหากจะติดเชื้อโควิดอีก ก็อาจจะมีอาการไม่รุนแรงมากนัก ใช้เวลา 5-7 วัน ก็หายเองได้ ดังนั้นไม่ต้องเข้มงวดจนเกินไป มิเช่นนั้นนักท่องเที่ยวจะไม่มาเที่ยวไทย ซึ่งก็ไม่จะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจไทยได้