“คลัง” มั่นใจธปท.รับมือ “บาทแข็งสุดรอบ 6 ปี” ได้

  • ส่งผลดีหากไทยสั่งเครื่องจักรเข้ามาทดแทนของเดิม
  • สั่งสคร.ตั้งบอร์ดรฟท.เดินหน้าไฮปีดเทรน
  • แจงรัฐเดินตาม TOR รับความเสี่ยงร่วมกับเอกชน

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า กรณีค่าเงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 6 ปี อยู่ที่ 30.83 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รับทราบเรื่องนี้แล้ว และบางเวลาธปท. ก็ได้ออกมาตรการดูแลควบคุมค่าเงินบาทให้สอดคล้องกับสภาพการเงินจริงของเศรษฐกิจไทย

 “ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นส่งผลกระทบต่อการส่งออกไทยก็จริง แต่ส่วนตัวมองว่า สามารถมองได้ทั้ง 2 ด้าน โดยช่วงนี้เป็นช่วงเวลาลงทุนที่ดีหากจะสั่งเครื่องจักรเข้ามาทดแทนเครื่องจักรเดิม เพราะได้เปรียบเรื่องค่าเงิน อย่างไรก็ตาม มองว่าค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเป็นวัฏจักร ซึ่งผู้ส่งออกจะต้องพยายามปรับตัว และขณะนี้รัฐบาลก็พยายามให้เศรษฐกิจเติบโตตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ คาดการณ์ไว้ว่าจะเติบโตที่ 3% แต่ทั้งนี้จะต้องรอดูผลจากการออกมาตรการต่างๆก่อน  รวมถึงชิมช้อปใช้ระยะที่2 ซึ่งจะออกมาด้วย”

ขณะที่เรื่องโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ซึ่งปัจจุบันมีการเลื่อนการเซ็นสัญญาก่อสร้างกับกลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร (CPH) ออกไป เนื่องจากคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) หรือ บอร์ดรถไฟ ว่างลงหลังจากมีการลาออกกันยกชุดนั้น  ปัจจุบันรายชื่อถูกส่งมายังคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) เพื่อพิจารณาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้สั่งให้สคร. เร่งหารือกับกระทรวงคมนาคม เพื่อจัดตั้งบอร์ดรฟท.ชุดใหม่ ซึ่งหลังจากตกลงกันได้แล้ว จะส่งรายชื่อให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาต่อไป

“สคร.เป็นเพียงผู้สนับสนุนให้เกิดการตั้งบอร์ดรฟท.ขึ้นเท่านั้นแต่ไม่ใช่หน่วยงานหลัก  จึงบอกไม่ได้เวลาจะจัดตั้งได้ช่วงวันที่เท่าไหร่ ตอนนี้ได้รายชื่อครบแล้ว คาดว่าจะสามารถจัดตั้งได้ในเร็วๆ นี้

ส่วนกรณีนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี.) มองว่าเป็นการผลักภาระการลงทุนให้เอกชนฝ่ายเดียวนั้น นายอุตตม ขอชี้แจงว่า ทุกโครงการที่เกิดขึ้น มีการประเมินทั้งบทบาทของเอกชนและภาครัฐว่าเป็นอย่างไร มีความเสี่ยงโดยรวมอะไรบ้าง  ซึ่งทุกวันนี้รัฐบาลเดินตามการว่างจ้างการลงทุน(TOR) ที่ได้ตกลงเรื่องความเสี่ยงที่รับผิดชอบโดยรวมอยู่แล้ว  และมองว่า TOR ที่ทำร่วมกัน มีความยืดหยุ่นในระดับหนึ่ง แต่กระทรวงการคลังไม่ได้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้โดยตรง เรื่องสัญญากระทรวงคมนาคมเป็นผู้ที่ดูแล