“คลัง” จับมือ กสศ.บูรณาการนำระบบบิ๊กดาต้าแก้ปัญหาเด็กยากจน 1.7 ล้านคน

  • ย่ำชัดไม่ให้ใครตกหล่น เดินหน้านโยบายลดความเหลื่อมล้ำ
  • มุ่งช่วยแก้ปัญหาทั้งพ่อ-แม่-ลูก ตัดวงจรยากจน
  • ยกระดับมอบโอกาสทางการศึกษา

นายพงศ์นคร โภชากรณ์ ผู้อำนวยการส่วนการวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวในการสัมนาหัวข้อ “ก้าวต่อไปของการช่วยเหลือนักเรียนยากจนพิเศษ”  ที่กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) จัดขึ้นว่า  ที่ผ่านมา กสศ.ได้เชิญกระทรวงการคลังไปให้ข้อเสนอแนะเรื่องการดำเนินการช่วยเหลือเด็กยากจนมาโดยตลอด และได้มีการหารือร่วมกัน  โดยเฉพาะแนวทางการใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลผู้มีรายได้น้อยจำนวน 14.6 ล้านคน ซึ่งในกลุ่มนี้ราว 10.8 ล้านคน เป็นกลุ่มที่มีรายได้อยู่ใต้เส้นความยากจน   โดยจำนวนประชากรอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่เป็นบุตรของพ่อแม่ที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจนกลุ่มนี้ มีอยู่ประมาณ 1.7 ล้านคน  กระจายตัวอยู่ในกลุ่มครอบครัว ดังนี้  1.กลุ่ม A รายได้ครอบครัว 0 -10,000 บาทต่อปี  มีจำนวน 888,000 คน   2.กลุ่ม B รายได้ครอบครัว10,001-20,000 บาทต่อปี มีจำนวน 360, 000 คน และ 3.กลุ่ม C รายได้ครอบครัว 20,001-30,000 บาทต่อปี มีจำนวน450,000 คน   

ทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง มีข้อมูลพ่อแม่ และชื่อ ที่อยู่ของเด็กทั้งหมด  ในอนาคต ก็สามารถนำข้อมูลนี้ ไปศึกษาวิเคราะห์ ออกนโยบายลดความเหลื่อมล้ำร่วมกัน  ทางกสศจะได้ชื่อของพ่อแม่ของเด็กๆที่ยากจนในทุกพื้นที่เพื่อช่วยเหลือ  ซึ่งหากตกหล่นสามารถเอารายชื่อกระทรวงการคลัง ไปเทียบตรวจสอบซ้ำ ก็จะสามารถเดินเคาะประตูบ้าน ถึงตัวเด็กได้จริง   ช่วยให้สวัสดิการที่รัฐบาลได้ดำเนินการผ่านหน่วยงานต่างๆ  ไปถึงพ่อแม่และเด็กยากจนจริงๆ   เป็นเครื่องยืนยันว่ารัฐบาลไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง รวมถึงเป็นการขจัดความยากจนไม่ให้ส่งต่อไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลานอีกด้วย ” นายพงศ์นคร กล่าว

ดร.ไกรยส ภัทราวาท รองผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า เร็วๆนี้ ทางกสศ.จะเข้าพบ ปลัดกระทรวงศึกษาการและผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจการคลัง เพื่อขยายผลความร่วมมือการทำงานด้านฐานข้อมูล ทั้งในส่วนฐานข้อมูลนักเรียนยากจนพิเศษกว่า 7 แสน คนจากระบบสารสนเทศของกสศและฐานข้อมูลผู้มีรายได้น้อยของก.คลัง  เมื่อข้อมูลของสองหน่วยงานเชื่อมต่อกันจะสามารถติดตามและตรวจสอบความถูกต้อง ได้ตลอดวงจรความช่วยเหลือ ทั้งครอบครัว พ่อแม่ลูก เช่น เคยพบกรณีที่ครูในโครงการทุนเสมอภาคของ กสศลงพื้นที่เยี่ยมบ้านและพบครัวเรือนยากจนที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนในโครงการสวัสดิการแห่งรัฐอันเนื่องมาจากไม่มีค่าเดินทางไปที่ธนาคารในตัวเมือง ทาง กสศก็พร้อมที่จะส่งข้อมูลให้แก่กระทรวงการคลังเพื่อไม่ให้มีเด็กคนใดตกหล่นแม้แต่คนเดียว เรื่องนี้เป็นก้าวสำคัญของการจับมือระหว่างหน่วยงาน เพื่อช่วยกันหยุดความยากจนข้ามชั่วคน ไม่ให้ส่งต่อไปถึงรุ่นลูกหลาน นอกจากนั้น กสศยังสนใจที่จะร่วมทำงานด้านข้อมูลกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โดยเฉพาะการใช้Big Data ของทั้ง 2 หน่วยงานมาบูรณาการปรับปรุงมาตรการลดความเหลื่อมล้ำในมิติต่างๆให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากขึ้น

ทั้งนี้ กสศตั้งใจจะทำงานร่วมมือกับภาคีให้มากขึ้น ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงทำงานวิจัยที่มีความลุ่มลึกมากขึ้นการจัดสรรความช่วยเหลือไปถึงมือเด็กไม่ใช่เป็นจุดสิ้นสุด แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งมีมิติหลายอย่างไม่ใช่แค่โจทย์เฉพาะทางเศรษฐศาสตร์ ยังจะต้องทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) หรือกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมถึงความร่วมมือ องค์การสหประชาชาติ องค์การยูเนสโก และ ศูนย์วิจัย J-PAL แห่งมหาวิทยาลัย MIT เพื่อสนับสนุนงานวิจัยด้านการประเมินผลโครงการด้วยกระบวนการที่มีมาตรฐานได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ เพื่อนำกลับมาปรับปรุงการทำงานของ กสศให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้นในอนาคต