ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เร็วๆ นี้ กระทรวงการคลังจะหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เพื่อผ่อนเกณฑ์ พระราชบัญญัติ(พ.ร.ก.) ซอฟต์โลน หรือ มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งมีประเด็นที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขหลักเกณฑดังกล่าวมีความกังวลต่อความรับผิดชอบต่อความเสียหายอาจเกิดขึ้น อาทิ ข้อกำหนดเดิมที่กำหนดให้กู้เฉพาะลูกค้าเดิมของธนาคารเท่านั้น เนื่องจากธนาคารย่อมรู้ประวัติของลูกค้าของตนเป็นอย่างดี ทำให้การอนุมัติเงินก็รวดเร็วขึ้นด้วย แต่หากเปิดกว้างขึ้น ว่าไม่จำเป็นต้องเป็นลูกค้าเก่าของธนาคารก็ได้สามารถมากู้ซอฟต์โลน ได้ด้วยก็อาจมีความเสี่ยง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะสามารถแก้ไข พรก.ฉบับนี้ตามข้อเสนอได้ แต่การอนุมัติสินเชื่อขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบันการเงิน แม้ว่าอาจจะมีการแก้ไขโดยปรับอัตราดอกเบี้ยเป็นไม่เกิน5%จากปัจจุบันไม่เกิน2% เพื่อจึงใจธนาคารพาณิชย์ก็ตาม แต่ธนาคารพาณิช ก็ต้องพิจารณาเครดิตของลูกค้า ซึ่งเกณฑ์ของธนาคารพาณิชย์ในขณะนี้เข้มงวดกว่าธนาคารของรัฐมาก เพราะหากปล่อยสินเชื่อออกไปแล้วกลายเป็นหนี้เสีย ธนาคารก็มีภาระต้องกันสำรองที่สูงขึ้น
นอกจากนี้ธนาคารพาณิช ยังต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ความรับผิดของสถาบันการเงิน ในกรณีที่ปล่อยกู้แล้วเกิดความเสียหาย แล้วตรวจพบว่าส่อไปในทางทุจริต ดังนั้นหากการแก้ไข พ.ร.ก.ซอฟต์โลนตามข้อเสนอได้ แต่ธนาคารพาณิชก็อาจไม่ปล่อยสินเชื่อ เนื่องจากกลัวความเสี่ยง
“ดังนั้นภาระการปล่อยกู้ซอฟต์โลน คงตกไปอยู่กับธนาคารของรัฐโดยเฉพาะธนาคารออมสิน”