- กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ
- คาด สศค.ลดประมาณการลง
- ปัญหางบล่าช้าเตรียมรับมือไว้แล้ว
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้สั่งการในที่ประชุมครม.ให้ทุกหน่วยงานช่วยดูแลเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในช่วงนี้มีปัญหาทั้งเรื่องไวรัสโคโรนา และเรื่องงบประมาณประจำปี 2563 ทั้งนี้ ยอมรับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกและผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ ทำให้กระทรวงคลังต้องปรับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)ใหม่ จากเดิมเคยประเมินไว้เมื่อเดือน ต.ค.ว่าปีนี้จะโต 3.3% โดยคาดว่าจะมีการปรับลดตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจในการแถลงข่าววันที่ 29 ม.ค.นี้
ขณะเดียวกัน รัฐบาลและกระทรวงคลังได้เตรียมมาตรการดูแลเศรษฐกิจเพิ่มเติมในช่วงที่การท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา โดยได้สั่งการให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กรมสรรพากร และกรมบัญชีกลาง ศึกษาดำเนินการมาตรการชิมช้อปใช้ระยะที่ 4 (เฟส4) หลังจากดำเนินการไปแล้ว 3 เฟส ซึ่งจะสิ้นสุดโครงการในวันที่ 31 ม.ค.นี้ โดยคาดหวังให้มาตรการชิมช้อปใช้มาช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศให้คึกคัก
“ชิมช้อปใช้เฟส 4 นั้น อาจจะมีการลงทะเบียนเพิ่มเติมจากผู้ที่ลงทะเบียนไว้ก่อนหน้านี้ 12.6 ล้านราย รวมถึงให้ร้านค้ามาลงทะเบียนเพิ่มเติมจากเดิมมีอยู่แล้ว 170,000 ราย อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังเหลือเงินในการดำเนินการชิมช้อปใช้อีก 5,000 ล้านบาท ซึ่งหากไม่พอใช้สามารถขอเพิ่มเติมได้”
“ส่วนกรณีชิมช้อปใช้อินเตอร์แนวคิดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานั้น ยังไม่ได้มีการหารือ ถ้ากระทรวงท่องเที่ยวฯ จะนำชื่อชิมช้อปใช้ไปทำมาตรการไม่คิดค่าลิขสิทธิ์ ส่วนกรณีผู้ประกอบการท่องเที่ยวเสนอให้ลดภาษีเครื่องบินนั้น กรมสรรพากรกำลังพิจารณาอยู่ ส่วนลดดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวนั้นขอดูในรายละเอียดก่อน”
ส่วนกรณีงบประมาณ ปี 2563 ล่าช้านั้น กระทรวงการคลังหารือกับสำนักงบประมาณ และ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมทางออกในเรื่องนี้ไว้แล้ว โดยหากงบประมาณ 2563 ยังไม่สามารถเบิกจ่ายได้ในเดือนมี.ค.ได้ รัฐบาลก็มีทางออกในเรื่องงบประมาณไว้หลายแนวทาง แต่ตอนนี้ไม่สามารถพูดไปก่อนได้ เพราะจะเป็นการก้าวล่วงศาลศาลธรรมนูญ โดยยืนยันว่าการเบิกจ่ายงบประมาณในเรื่องเงินเดือนข้าราชการไม่มีปัญหาแน่นอน
