ครม.ไฟเขียว”กัลฟ์-ปตท.”ลงทุนแหลมฉบังเฟส 3

ครม.รับทราบผลการคัดเลือกเอกชนกิจการร่วมค้า GPC ลงทุนโครงการ “แหลมฉบังเฟส 3” เสนอผลตอบแทนสัมปทาน 35 ปี มูลค่า 29,050 ล้านบาท

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้รับทราบผลการคัดเลือกเอกชนผลการเจรจาและร่างสัญญาร่วมทุนของโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเรือ Fตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดได้ให้ความเห็นชอบแล้วและตามมติของคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเมื่อวันที่ 4ตุลาคม 64 ซึ่งได้แก่กิจการกลุ่มร่วมค้า GPC ประกอบด้วย บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด (PTT TANK) บริษัท ไชน่า ฮาร์เบอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ซึ่งได้เสนอผลประโยชน์ผลตอบแทนทางการเงินของรัฐเป็นค่าสัมปทานคงที่ คิดเป็นมูลค่าปัจจุบันที่ 29,050 ล้านบาท และค่าสัมปทานแปรผันที่ 100 บาทต่อทีอียู เป็นระยะเวลารวมทุน 35 ปี

สำหรับกลุ่มกิจการร่วมค้า GPT เป็นเอกชนผู้ที่ยื่นเสนอรายเดียวที่ผ่านการประเมินหากดำเนินการคัดเลือกใหม่อาจจะส่งผลให้เกิดการเปิดค่าเทียบเรือ F ล่าช้าไปประมาณ 2ปีและก่อให้เกิดความเสี่ยง เช่นการที่ปริมาณตู้สินค้าจะเกินขีดความสามารถในการรองรับในปี 2568 รวมถึงข้อจำกัดในการรองรับเรือสินค้าขนาดใหญ่และผลกระทบจากโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลต่อการประมาณการ ตู้สินค้าในปัจจุบัน ซึ่งคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.)ได้พิจารณาแล้วและมีมติเห็นชอบตามเหตุผลและความจำเป็นเร่งด่วนที่กล่าวมา 

ทั้งนี้การพัฒนาท่าเรือระยะที่3 จะเป็นการช่วยสนับสนุนการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเพื่อเป็นประตูการค้าการลงทุนของภูมิภาคได้อย่างเต็มที่