คมนาคมลุ้นไม่ต้องจ่ายค่าโง่”โฮปเวลล์”

“สุริยะ”เป็นปลื้มมีแววคมนาคมไม่ต้องจ่ายค่าโง่โฮปเวลล์ 2.4 หมื่นล้าน หลังศาลปกครองกลางสั่งเพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ เหตุเอกชนยื่นฟ้องคดีหลังพ้นระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ด้าน”สุริยะ”สั่งฝ่ายกฎหมายหาข้อมูลรอบด้านเพิ่มเติมซัพพอร์ต

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลปกครองกลางพิพากษาเพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ หลังรับพิจารณาคดีใหม่ ว่า ในเรื่องดังกล่าวตนได้รับรายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ถือเป็นสัญญาณข่าวที่ดีที่ทำให้ กระทรวงคมนาคม และ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ไม่ต้องจ่ายเงินชดเชย พร้อมดอกเบี้ยให้กับ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย)จำกัดจำนวนกว่า 24,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้ฝ่ายกฎหมายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมข้อมูลเพื่อสนับสนุนถึงเหตุผลที่กระทรวงคมนาคมไม่ต้องจ่ายค่าดเชยตามผลอนุญาโตตุลาการ ทั้งนี้ทั้งนั้นหลังจากนี้ขั้นตอนก็ต้องรอศาลปกครองสูงสุด พิจารณาอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 18 ก.ย.66 ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการที่สั่งให้กระทรวงคมนาคม และ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด จากการที่ รฟท.บอกเลิกสัญญารวมเป็นเงิน 11,888.75 ล้านบาท ประกอบด้วยเงินค่าก่อสร้าง 9,000 ล้านบาท เงินค่าตอบแทนจากการใช้ประโยชน์ที่ดินที่บริษัทชำระไปแล้ว 2,850 ล้านบาท และเงินค่าออกหนังสือค้ำประกัน 38,749,800 บาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี และคืนหนังสือค้ำประกันมูลค่า 500 ล้านบาท หลังมีการพิจารณาคดีใหม่ตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2565 โดยศาลปกครองกลางเห็นว่า บริษัท โฮปเวลล์ ยื่นฟ้องคดีพิพาทต่อคณะอนุญาโตตุลาการพ้นกำหนดระยะเวลาที่กฎหมายที่กำหนด

ทั้งนี้ศาลให้เหตุผลว่า การที่มีคำพิพากษาเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ เนื่องจาก บริษัท โฮปเวลล์ฯ ได้รับหนังสือบอกเลิกสัญญา เมื่อวันที่ 30 ม.ค.2541 จึงมีสิทธิที่จะเสนอข้อพิพาทต่อคณะอนุญาโตตุลาการได้อย่างช้าที่สุดภายในวันที่ 30 ม.ค. 2546 แต่ บริษัท โฮปเวลล์ฯ  กลับยื่นคำเสนอข้อพิพาท เมื่อวันที่ 24 พ.ย.2547 ดังนั้นจึงพ้นระยะเวลาห้าปีนับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการเสนอข้อพิพาทตามมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ. จัดตั้งศาลปกครองฯ พ.ศ. 2542 ที่แก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวไป 1 ปี 9 เดือนเศษ ดังนั้นสิทธิเรียกร้องของบริษัท โฮปเวลล์ฯ จึงขาดอายุความตามกฎหมาย  

และโดยที่ปัญหาเรื่องอายุความในการใช้สิทธิเรียกร้องเป็นบทบัญญัติอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ในการพิพากษาคดี ศาลปกครองสามารถยกขึ้นวินิจฉัยแล้วพิพากษาได้ตามข้อ 92 แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543 การที่คณะอนุญาโตตุลาการรับข้อพิพาทที่ผู้คัดค้านยื่นพ้นเวลาไว้พิจารณา และมีคำชี้ขาดข้อพิพาทหมายเลขแดงที่ 64/2551 ลงวันที่ 30 ก.ย.51 จึงเป็นกรณีที่ การยอมรับหรือการบังคับตามคำชี้ขาดขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนที่ศาลปกครองมีอำนาจเพิกถอนและปฏิเสธการบังคับตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการได้ตามมาตรา 40 วรรคสาม (2) (ข) และมาตรา 44 แห่ง พ.ร.บ. อนุญาโตตุลาการ พ.ศ. 2545 จึงพิพากษาให้เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ในข้อพิพาทหมายเลขดำที่ 119/2547 ข้อพิพาทหมายเลขแดงที่ 64/2551 ลงวันที่ 30 กันยายน 2551 ทั้งหมด 

และเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการในข้อพิพาทหมายเลขดำที่ 44/2550 ข้อพิพาทหมายเลขแดงที่ 70/2551 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2551 ทั้งหมด และมีคำสั่งปฏิเสธไม่รับบังคับตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการในข้อพิพาทหมายเลขดำที่ 119/2547 ข้อพิพาทหมายเลขแดงที่ 64/2551 ลงวันที่ 30 กันยายน 2551 กับให้คำสั่งศาลที่ให้งดการบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขแดง ที่ อ. 221 – 223/2562 ไว้ในระหว่างพิจารณาคดีใหม่มีผลใช้บังคับต่อไปจนกว่าคดีจะถึงที่สุด หรือจนกว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

สำหรับคดีกล่าว  เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2562 ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาให้กระทรวงคมนาคม และ รฟท. ต้อง ปฏิบัติตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการเมื่อวันที่8พ.ย.2551โดย รฟท.ต้องคืนเงินชดเชยให้กับบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด จากการบอกเลิกสัญญารวมเป็นเงิน 11,888.75 ล้านบาท ประกอบด้วยเงินค่าก่อสร้าง 9,000 ล้านบาท เงินค่าตอบแทนจากการใช้ประโยชน์ที่ดินที่บริษัทชำระไปแล้ว 2,850 ล้านบาท และเงินค่าออกหนังสือค้ำประกัน 38,749,800 บาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี และคืนหนังสือค้ำประกันมูลค่า 500 ล้านบาท โดยดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 180 วันนับคดีถึงที่สุด 

จากนั้น กระทรวงคมนาคม กับ รฟท.ได้ยื่นขอให้มีการพิจารณาคดีใหม่ เนื่องจากเห็นว่า  บริษัทโอปเวลล์ (ประเทศไทย ) จำกัด การเสนอข้อพิพาทต่อคณะอนุญาโตตุลาการ ขาดอายุความตามกฎหมายไปแล้ว  และในวันที่ 4 มี.ค.2562 ศาลปกครองสูงสุด โดยที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งให้รื้อฟื้นคดีตามคำร้องของกระทรวงคมนาคมและ รฟท. ก่อนที่วันนี้ ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาเพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตดังกล่าว เป็นผลให้ กระทรวงคมนาคม และ รฟท. ยังไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด จากการบอกเลิกสัญญารวมเป็นเงิน 11,888.75 ล้านบาท   อย่างไรก็ตาม  บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ยังสามารถยื่นอุทธรณ์ในคดีต่อศาลปกครองสูงสุดได้อีก ภายใน 30 วัน