คมนาคมจ่อเสนอ”บิ๊กตู่”ตั้งกรรมการเฉพาะเข็นแผนฟื้นฟู ขสมก.สางหนี้ 1.27 แสนล้าน บาท

  • คมนาคม จ่อเสนอนายกรัฐมนตรีตั้ง13 มือดีมาเข็นแผนฟื้นฟู ขสมก.
  • คมนาคม-คลังผนึกกำลังเร่งสางหนี้ 127,000ล้านบาท
  • มั่นใจดัน ขสมก.หลุดพ้นจากหลุมดำเดินต่อไปอย่างเข้มแข็ง



    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่ คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ คนร.ได้มีมติเห็นด้วยในหลักการแผนฟื้นฟูกิจการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. ฉบับปรับปรุงใหม่ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอนั้น และเพื่อให้เกิดความชัดเจนในประเด็นตามข้อสังเกตของ คนร.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนที่จะมีการเสนอ คณะรัฐมนตรี(คนร.)นั้น ล่าสุดกระทรวงคมนาคมได้เตรียมเสนอให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณารายละเอียดแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ฉบับปรับปรุงใหม่) ขึ้นมา1ชุด

    โดยคณะกรรมการดังกล่าว มีกรรมการร่วม 13 คน โดยจะเสนอนายอนุทินชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน โดยยังมีรายชื่อของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ,นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง ,นายชัยวัฒน์ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม ,ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ,ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร) ,ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ,เลขาธิการ สภาพัฒน์, อธิบดีกรมการขนส่งทางบก, ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข .,ผู้อำนวยการ ขสมก. และรองผู้อำนวยการ ขสมก.ฝ่ายบริหาร ร่วมกับเป็นกรรมการ


    ทั้งนี้คณะกรรมการชุดดังกล่าวจะมีภารกิจ กลั่นกรองงานตามแผนฟื้นฟูกิจการฉบับใหม่ ตามที่ คนร.ตั้งข้อสังเกต และแนวทางที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย ,พิจารณาปรับปรุงแผนให้มีความชัดเจน ดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ,เชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลตามที่จำเป็น ,ปฏิบัติตามภารกิจที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย และ สรุปแนวทางฟื้นฟูกิจการเพื่อเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี ต่อไป

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบทบาทของคณะกรรมการชุดดังกล่าว จะเป็นไปตามแนวทางที่กระทรวงคมนาคม ต้องการเร่งรัดแผนฟื้นฟู ขสมก. ให้มีความคืบหน้าโดยเร็วและยังมีรายละเอียดที่ต้องดำเนินการต่อไปอีกในหลายประเด็น เช่นการจับเช่ารถเมล์ EV 2,511 คัน การกำหนดค่าโดยสารแบบตั๋ววัน 30 บาท

ซึ่งนอกจากคณะกรรมการที่มี นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีฯ เป็นประธานฯ นอกจากจะทำรายละเอียดเพื่อเตรียมเสนอ ครม.แล้ว จะต้องประสานความร่วมมือระหว่างกระทรวงคมนาคมกับกระทรวงการคลัง ตามที่มีภารกิจที่ต้องรับไปดำเนินการต่อประเด็นที่ต้องมีการแก้ไขปัญหาหนี้และภาระขาดทุนสะสมของขสมก. กว่า 127,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่สูง และต้องได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง รวมถึง สภาพัฒน์ โดยภาระหนี้ที่มีในอดีตนั้น จะมีลักษณะที่ต้องทยอยชำระเป็นงวดๆ ทั้งในส่วนของหนี้พันธบัตรและหนี้เงินกู้ ที่ครบกำหนด 

รวมทั้งในอนาคตเมื่อแผนฟื้นฟูผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีไปแล้ว ก็จะมีภารกิจในการติดตามความคืบหน้าของงาน ตามแนวทางการฟื้นฟู ในระยะเวลาช่วงเปลี่ยนผ่าน 2-3 ปีข้างหน้า เช่น ภารกิจที่ ขสมก.จะมีการทยอยรับมอบรถเมล์ EVใหม่ 2,511 คัน ไปจนครบในเดือนกันยายน 2565