คนกรุงหาวเรอร้องเพลงรอรถเมล์ใหม่

  • “ศักดิ์สยาม”เครื่องร้อนขอรื้อแผนฟื้นฟู ขสมก.ใหม่หมด
  • สั่ง!ปรับ “แผนจัดหารถ-เส้นทางเดินรถ-บริหารหนี้สิน”
  • มั่นใจทำให้รัฐบาลประหยัดการใช้งบประมาณเรื่องนี้ลดลง

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมปรับปรุงแผนฟื้นฟูขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.)ว่า ทางผู้บริหาร ขสมก. ได้มารายงานรายละเอียดของแผนฟื้นฟูองค์กรให้ตนรับทราบ แต่ตนยังไม่พอใจแผนฟื้นฟูฉบับดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ดังนั้น จึงได้สั่งการให้ ขสมก. กลับไปทบทวนแผนฟื้นฟูองค์กรใหม่และกลับมานำเสนอภายใน 1 เดือน หลังจากนั้นจะเสนอให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป

นอกจากนั้นได้ให้ขสมก.ไปดูแนวทางการการบริหารหนี้สาธารณะว่า จะจ่ายหนี้สะสมที่ ขสมก.มีอยู่มูลค่า กว่า 128,000 ล้านบาทได้อย่างไร โดยให้ ขสมก.ดูข้อสังเกตจากสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)และสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ มาประกอบการดำเนินงานด้วย รวมถึงให้พิจารณาดูต้นทุน ความจำเป็น และ ความต้องการในการใช้รถที่จะเป็นฟีดเดอร์เชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะโหมดอื่น ทั้ง รถไฟฟ้า และเรือ โดยอาจใช้วิธีทยอยจัดหาเป็นช่วง 6 เดือน หรือ 1 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการที่แท้จริง 

ขณะเดียวกันจะต้องพิจารณาแนวทางการบริหารสายทางที่มีรถร่วมเอกชนให้บริการด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทับซ้อนกัน ซึ่งทั้งหมดเพื่อไม่เกิดภาวะการสูญเสียงบประมาณในสิ่งที่ไม่ควรเสีย  อย่างไรก็ตามเชื่อมั่นว่า ขสมก.จะสามารถเริ่มดำเนินการตามแผนได้ในกลางปี 63 และมีแนวโน้มว่าทุกเรื่องน่าจะสำเร็จตามแผน ซึ่งจะส่งผลให้ ขสมก.มีผลประกอบการเป็นบวกจนสามารถดูแลตัวเองได้และยังจะเป็นต้นแบบให้กับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจอื่นนำแนวทางไปปรับใช้ฟื้นฟูองค์กรต่อไป

นายศักดิ์สยาม ยังได้สั่งการให้ ขสมก. ไปพิจารณาทบทวนตัวเลขปริมาณความต้องการในการใช้รถโดยสารใหม่ทั้งหมด จากเดิมที่มีแผนจัดหารถจำนวนรวม 3,000 คัน  เนื่องจากมองว่าปัจจุบันประชาชนมีทางเลือกการเดินทางรูปแบบอื่นเพิ่มขึ้นแล้ว โดยเฉพาะรถไฟฟ้าที่กำลังจะทยอยเปิดให้บริการเพิ่มเติมอีกหลายเส้นทาง  ทั้งสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย และรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ  รวมทั้งให้ไปพิจารณาเรื่องเส้นทางทับซ้อนกับรถโดยสารเอกชนใหม่ โดย ขสมก.จะต้องไม่วิ่งทับซ้อมเส้นทางรถโดยสารเอกชน ดังนั้นจะทำให้ความจำเป็นในการจัดหารถโดยสารอาจจะปรับลดลง ซึ่งจะทำให้งบในการจัดซื้อปรับลดลง ไม่ถึง 13 ,000 ล้านบาทด้วย  

นอกจากนี้ นายศักดิ์สยาม ยังได้สั่งการให้ ขสมก.ไปจัดทำรายละเอียดแผนบริหารจัดการหนี้สินกว่า 128,000 ล้านบาทใหม่ เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องการยกหนี้ให้กระทรวงการคลัง เนื่องจากกรณียกหนี้ให้คลังก่อนหน้านี้เป็นเพียงแค่มติ ครม.ที่เห็นชอบชอบเป็นกรอบไว้เท่านั้น ยังไม่มีข้อยืนยันว่าคลังจะยกหนี้ให้อย่างไร เมื่อใด ประกอบกับขณะนี้ระยะเวลาก็ผ่านมานานแล้วส่งผลให้ภาระดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนทำให้ภาระหนี้ขสมก.สูงกว่าเดิมแล้ว.