“กรุงเทพโพลล์” เผยคนไทยยังกังวลหลังคลายล็อกดาวน์ อาจนำไปสู่การระบาดระลอกใหม่

  • พบหลังคลายล็อก 1 ก.ย. ประชาชนเริ่มกลับไปทำงาน เดินห้าง นั่งทานข้าวที่ร้านมากขึ้น
  • รวมถึงมี 41% ชี้ยังอยู่บ้านเหมือนช่วงที่ยังไม่มีการผ่อนคลายมาตรการ
  • พบส่วนใหญ่เห็นด้วยมาตรการ “โควิดฟรีเซตติ้ง” ที่ลูกค้าต้องมีหลักฐานฉีดวัคซีนครบโดส เพื่อใช้บริการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (18 ก.ย.64) กรุงเทพโพลล์ โดยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง“คนไทยคิดอย่างไร??หลังผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์” โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,200 คนพบว่า กิจกรรมที่ประชาชนทำหลังจากมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมาคือ ได้กลับไปเปิดร้าน ได้กลับไปทำงาน 15.5% รองลงมาคือ เดินเที่ยวห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า 11.9% และนั่งทานอาหารในร้าน11.4% ขณะที่ 41.0% ระบุว่า อยู่บ้านเหมือนช่วงที่ยังไม่มีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์

ทั้งนี้เมื่อถามว่า เชื่อมั่นเพียงใดว่าสถานประกอบการ ห้างร้านต่างๆ จะปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ในระยะยาว โดยประชาชนส่วนใหญ่ 54.5% ระบุว่า เชื่อมั่นค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด ขณะที่ 45.5% ระบุว่าเชื่อมั่นค่อนข้างมากถึงมากที่สุด

ส่วนความกังวลว่าหลังจากผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์อาจนำไปสู่การติดเชื้อระลอกใหม่ นั้น ประชาชนส่วนใหญ่62.7% ระบุว่า กังวลค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ขณะที่ 37.3% ระบุว่า กังวลค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด

สำหรับความเห็นต่อการเตรียมใช้มาตรการโควิดฟรีเซตติ้ง สำหรับลูกค้าที่ เข้าร้านอาหาร ร้านเสริมสวย ร้านตัดผมคลินิกเวชกรรมเสริมความงาม ต้องมีหลักฐานฉีดวัคซีนครบโดส หรือผลตรวจ ATK เป็นลบ ตั้งแต่ 1 ต.ค. นี้ พบว่าส่วนใหญ่ 71.7% เห็นด้วย โดยให้เหตุผลว่า ลดความเสี่ยงจากการรับและการแพร่เชื้อโควิด-19 และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าคนอื่นๆ และพนักงานในร้าน ขณะที่ 28.3% ระบุว่าไม่เห็นด้วย โดยให้เหตุผลว่า เร็วเกินไปยังฉีดวัคซีนไม่ทั่วถึงทำให้เสียลูกค้าในกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีน ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนจะถูกตัดสิทธิ์ในการใช้บริการ

โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ (ตามภาพด้านล่าง)