กระทรวงพลังงาน ลงนามสัมปทานปิโตรเลียมเพิ่มเติม

  • แหล่งก๊าซธรรมชาติน้ำพองเป็นเวลา10ปี
  • ใช้เป็นเชื้อเพลิงเสริมพลังงานภาคอีสาน
  • เกิดการจ้างงาน-สร้างรายได้เข้ารัฐ750ล้านบาท 

นายสุพัฒน์พงษ์ พันธ์มีเชาว์ รมว.พลังงาน เปิดเผยหลังเป็นประธานในพิธีลงนามสัมปทานเพิ่มเติมของสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ 2/2522/17 แปลงสำรวจบนบกหมายเลข E5 (นอกพื้นที่โคราช) หรือแหล่งก๊าซธรรมชาติน้ำพอง จังหวัดว่า สัมปทานดังกล่าวมีบริษัท เอ็กซอนโมบิล เอ็กซ์โพลเรชั่น แอนด์ โพรดักชั่น โคราช อิงค์ จำกัดเป็นผู้รับสัมปทาน ซึ่งถือเป็นแปลงสัมปทานปิโตรเลียมบนบกลำดับแรก ๆ ของประเทศไทยที่ผลิตและจำหน่ายก๊าซธรรมชาติมานาน 30 ปี

สำหรับ การลงนามสัมปทานปิโตรเลียมเพิ่มเติมในครั้งนี้ เป็นการต่อระยะเวลาการผลิตปิโตรเลียมออกไปอีก 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.นี้-15มี.ค. 2574 เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียม โดยกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติได้ศึกษาและพิจารณาคำขอต่อระยะเวลาผลิตปิโตรเลียมในแหล่งก๊าซธรรมชาติ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญเช่น การปฏิบัติตามสัมปทานของผู้รับสัมปทาน การยื่นคำขอต่อระยะเวลาผลิตปิโตรเลียมก่อนสิ้นระยะเวลาผลิต ข้อเสนอแผนการดำเนินงาน และผลประโยชน์ที่เสนอให้กับรัฐ และผ่านการพิจารณากลั่นกรองของคณะกรรมการปิโตรเลียมก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ

ทั้งนี้ แปลงสำรวจบนบกหมายเลข E5 (นอกพื้นที่โคราช) หรือแหล่งก๊าซธรรมชาติน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น มีพื้นที่ผลิตปิโตรเลียม จำนวน 34 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่อำเภอน้ำพอง และอำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ที่ จะเป็นการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากก๊าซธรรมชาติที่ผลิตจากแหล่งดังกล่าวปละ 7-8 ล้านลูกบาศก์ฟุต จะถูกส่งไปเป็นเชื้อเพลิงเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าให้ประชาชนกว่าล้านครัวเรือนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมการสร้างงานในประเทศ ทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยตรงและอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสร้างรายได้ให้แก่รัฐ รวม 750 ล้านบาท