กรมอนามัย เผยคนไทยสวมหน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้น 93.3%

  • ผลสำรวจการใช้บริการขนส่งสาธารณะและสวมหน้ากากตลอดเวลาค่อนข้างน้อย
  • ขอให้ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะ มีป้ายแนะนำให้ความรู้
  • ตลาดนัดร้านอาหาร ต้องมีแนวทางป้องกัน

นพ.สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยได้สำรวจพฤติกรรมการสวมหน้ากากอนามัยของประชาชน 5 ครั้ง โดยผลสำรวจครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2563 ถึง 2 ม.ค. 2564 พบสวมหน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 93.3 ส่วนผลสำรวจการใช้บริการขนส่งสาธารณะและสวมหน้ากากตลอดเวลาอยู่ที่ร้อยละ 73.4 ซึ่งค่อนข้างน้อย ดังนั้น เพื่อควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 จึงขอให้ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะหรืออาคารสถานที่ ต้องจัดให้มีการคัดกรองวัดไข้ ทั้งผู้ปฏิบัติงานและผู้ใช้บริการ มีจุดล้างมือหรือเจลแอลกอฮอล์ให้บริการทั้งในอาคารและบนรถโดยสาร จัดระยะห่างไม่ให้เกิดความแออัด มีป้ายประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ และให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา

ส่วนอาคารสถานที่  ให้ทำความสะอาดทุกวัน เน้นบริเวณพื้นผิวที่มีผู้สัมผัสร่วมจำนวนมากให้เพิ่มความถี่อย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง เช่น เคาท์เตอร์จำหน่ายตั๋ว ปุ่มกดตู้จำหน่ายเครื่องดื่ม ลูกบิดประตู ราวบันได รวมถึงห้องน้ำ  ก่อนและหลังการให้บริการให้เปิดหน้าต่าง เพื่อระบายอากาศในรถ สำหรับผู้ปฏิบัติงานต้องดูแลสุขลักษณะส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด ป้องกันตนเอง ส่วนการจำหน่ายอาหารในบริเวณสถานีขนส่งสาธารณะนั้น ผู้จำหน่ายอาหารต้องล้างมืออย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า โดยไม่จำเป็น มีที่คลุมอาหาร ใช้อุปกรณ์หยิบจับอาหาร หากมีอาการป่วย เช่น ไข้ ไอ เจ็บคอ หอบเหนื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรสชาติ ให้หยุดงานและพบแพทย์ทันที สำหรับผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะต้องปฏิบัติตามมาตรการของขนส่งอย่างเคร่งครัด โดยต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา งดรับประทานอาหารในรถ หมั่นล้างมือบ่อย ๆ หากพบว่าตนเอง มีไข้ ไอ จาม ควรงดการใช้บริการ

สำหรับส่วนตลาดสดและร้านอาหาร มีแนวทางป้องกันดำเนินการใน  3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 ผู้ประกอบกิจการ ต้องจัดให้มีระบบการคัดกรองพนักงานหรือผู้ให้บริการและผู้มาใช้บริการ หากพบว่าป่วยงดให้บริการและไปพบแพทย์  กลุ่มที่ 2 ผู้สัมผัสอาหาร ให้มีการสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย  ถ้าหน้ากากเปียกชื้นหรือสกปรกควรเปลี่ยนใหม่ทันที ล้างมือด้วยสบู่และน้ำหรือเจลแอลกอฮอล์ก่อนปฏิบัติงานที่ต้องสัมผัสอาหารทุกครั้ง ลดการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ใช้บริการ เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร มีระบบการสั่งซื้ออาหาร จองโต๊ะนั่งรับประทานอาหารล่วงหน้า การชำระเงินแบบออนไลน์ มีอุปกรณ์สำหรับรับเงิน เป็นต้น

กลุ่มที่ 3 ผู้ซื้อ/ผู้บริโภค ต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย 100 เปอร์เซ็นต์ ล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ก่อนและ หลังการใช้บริการ รวมทั้งเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร และในการเลือกซื้ออาหารสดไม่ควรใช้มือเปล่าหยิบจับอาหารโดยตรง ควรใส่ถุงมือหรือใช้ที่คีบที่ทางร้านเตรียมไว้ให้

#TheJournalistClub #โควิด19 #กรมอนามัย #หน้ากากอนามัย