กนอ.เห่กล่อมนักลงทุนเยอรมัน เข้ามาในประเทศไทย

  • วาดฝันกลุ่มเครื่องมือแพทย์-แปรรูปยางพารา
  • ตั้งเป้าขายที่ดินในอีอีซีที่มีความพร้อมที่สุด
  • ดูการบริหารจัดการเมืองรูปแบบใหม่ปรับใช้ในไทย

น.ส.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) เปิดเผยหลังการนำผู้บริหารกนอ. และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ไปจัดกิจกรรมชักจูงการลงทุน(โรดโชว์)เพื่อชักจูงนักลงทุนในประเทศเยอรมนี ในงานคอมพาเมด 2019 เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนเยอรมัน ได้พบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลทางธุรกิจเพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างกัน รวมถึงความพร้อมของพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมที่จะรองรับตามยุทธศาสตร์ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศไทย โดยการจัดกิจกรรมครั้งนี้ กนอ.ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์และผลิตอุปกรณ์การแพทย์ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพื่อศึกษารายละเอียดประกอบการตัดสินใจลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี)

” การไปโรดโชว์ นอกจากเป็นการส่งเสริมการลงทุนในบูธไทยแลนด์ พาวิลเลียน กนอ.ยังได้พบกับลูกค้าที่ผลิตอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องกับอุปกรณ์การแพทย์ ที่สนใจและแจ้งว่าจะมาเยี่ยมชมพื้นที่โครงการนิคมอุตสาหกรรมยางพารา จังหวัดสงขลาเพื่อหาลู่ทางลงทุนโดยหลายๆบริษัทที่ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ดังกล่าว เป็นบริษัทชั้นนำในการผลิตเครื่องมือแพทย์ที่นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในกระบวนการผลิต และเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่สอดคล้องกับอุตสาหกรรมนิว เอส-เคิร์ฟ หรืออุตสาหกรรมยุคใหม่ ที่ขณะนี้ประเทศไทย มีความพร้อมรองรับการลงทุนจากทั่วโลกเข้ามายังประเทศไทย ประกอบกับ กนอ.มีความพร้อมเชิงพื้นที่เพื่อรองรับการลงทุนของอุตสาหกรรมดังกล่าวโดยเฉพาะพื้นที่อีอีซี “

น.ส.สมจิณณ์กล่าวว่า กนอ.ยังได้เยี่ยมชมการบริหารจัดการอินโนเวชั่น ซิตี้ เมเนจเมนต์ ณ เมืองบอตทรอป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับการพัฒนาเมืองโดยใช้นวัตกรรมที่นำไปสู่ความยั่งยืน บริหารจัดการแบบองค์รวมในด้านต่างๆ อาทิ ด้านเศรษฐกิจ ,สิ่งแวดล้อม ,ภูมิศาสตร์ ดังนั้นการบริหารจัดการแบบอินโนเวชั่น ซิตี้ จึงมีแนวคิดในพัฒนาและเปลี่ยนแปลงสังคมเมือง ให้เป็นการพัฒนาแบบองค์รวมเพื่อการเป็นเมืองใหม่อย่างยั่งยืน ที่มีองค์ประกอบ ได้แก่ การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้พลังงานหมุนเวียน การใช้นวัตกรรมผลิตวัสดุและผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเก็บกักพลังงาน และช่วยดูดซับก๊าซจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงของรถยนต์อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการพัฒนาแบบองค์รวมนี้จะช่วยลดผลกระทบด้านการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศ และภาวะโลกร้อน โดยการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ส่งเสริมการดูแลด้านสิ่งแวดล้อมและการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เพื่อนำไปสู่การอยู่ร่วมกันแบบยั่งยืน ภายหลังศึกษาดูงานครั้งนี้ กนอ. จะนำแนวคิดดังกล่าวมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับการพัฒนาและบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทย