กนอ.เผยผลการตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก

  • ในพื้นที่กำกับของกนอ.มีค่าต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน
  • สั่งทุกนิคมฯ คุมเข้มมาตรการลดผลกระทบปัญหา
  • แนะใช้ก๊าซธรรมชาติ -ถ่านหินบิทูมินัส ในกระบวนการผลิต

นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่าจากการรายงานสถานการณ์และคุณภาพอากาศประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา พบว่าค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ พีเอ็ม 2.5 เกินค่ามาตรฐานในหลายๆพื้นที่ กนอ.ในฐานะกำกับดูแลการดำเนินงานของโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม ได้กำชับกองสิ่งแวดล้อมและพลังงาน ของ กนอ.ประสานกับผู้อำนวยการนิคมอุตสาหกรรมทุกแห่งให้ปฏิบัติตาม 4 มาตรการ เพื่อลดผลกระทบและปัญหาฝุ่นละอองที่ได้กำหนดใช้ไปก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันได้จัดให้มีการตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก ตามวิธีการตรวจวัดที่เป็นไปตามหลักวิชาการในนิคมฯที่ กนอ.กำกับดูแล พบว่าผลการตรวจวัด ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่นิคมฯทุกแห่ง มีค่าต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน

“กนอ.ได้ติดตามตรวจสอบและตรวจวัดคุณภาพอากาศจากโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่นิคมฯ โดยเฉพาะโรงงานที่มีปล่องควันจากการเผาไหม้ที่ให้โรงงานที่เข้าข่ายต้องจัดส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบตรวจสอบคุณภาพอากาศจากปล่องแบบอัตโนมัติ (Continuous Emission Monitoring Systems หรือ CEMs : CEMs คือเครื่องมือวัดวิเคราะห์ รวมถึงระบบเก็บข้อมูลเพื่อตรวจวัดอากาศจากปล่องระบายในรูปความเข้มข้นได้อย่างต่อเนื่อง)และส่งข้อมูลเข้าสู่ศูนย์เฝ้าระวังและควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (Environmental Monitoring & Control Center :EMCC) และศูนย์ปฏิบัติการ กนอ.โดยข้อมูลที่รายงานเป็นข้อมูลการตรวจวัดปัจจุบัน (Real time) สำหรับการจัดการโรงงานที่มีกระบวนการเผาไหม้ กระบวนการให้ความร้อน เช่น โรงงานถลุงเหล็ก โรงงานรีดเหล็ก เป็นต้น 

ทั้งนี้ กนอ.ได้ขอความร่วมมือให้หันมาใช้ก๊าซธรรมชาติแทนเชื้อเพลิงชนิดอื่น ซึ่งไม่มีสารกำมะถันเป็นองค์ประกอบ เพื่อลดปริมาณการระบายก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ เนื่องจากก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์จะเปลี่ยนไปเป็นอนุภาคฝุ่นละอองซัลเฟตที่มีขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน รวมทั้งได้ขอความร่วมมือให้โรงงานใช้ถ่านหินที่มีสารกำมะถันต่ำไม่เกิน 0.5% ใช้เป็นเชื้อเพลิง เช่น ถ่านหินบิทูมินัส พร้อมติดตั้งระบบควบคุมการระบายฝุ่นละอองที่มีประสิทธิภาพสูง

สำหรับการตรวจวัดเพื่อหาปริมาณพีเอ็ม2.5 กนอ.ใช้เครื่องมือตรวจวัดเป็นไปตามมาตรฐานของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ซึ่งกำหนดให้ใช้วิธีตรวจวัดมาตรฐานสากลตามหลักวิชาการFederal Reference Method (FRM) ซึ่งเป็นวิธีการตรวจวัดของ US.EPA (2012) โดยหลักการทำงานของเครื่องฯจะดูดอากาศทางด้านบนของเครื่อง (Inlet) โดยใช้ปั๊มที่มีการควบคุมอัตราการไหลที่คงที่ฝุ่นละอองผ่านชุดคัดขนาด (Inertial Particle Size Separator, impactor) และตกลงบนกระดาษกรองชนิดเทฟลอน หรือ Polytetrafluoroethylene (PTFE) นำกระดาษกรองไปชั่งหาน้ำหนัก ซึ่งผลของน้ำหนักกระดาษกรองที่แตกต่างกันระหว่างก่อนและหลังการเก็บตัวอย่าง จะเป็นน้ำหนักของฝุ่นละอองในปริมาตรอากาศที่ถูกดูดและนำไปคำนวณหาความเข้มข้นของฝุ่นละอองในหน่วยไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรต่อไป