สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า เมื่อวันจันทร์ องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศชื่อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ใหม่ด้วยการตั้งชื่อตามอักษรกรีก โดยประชาชนทั่วไปสามารถอ้างถึงได้ ตัวอย่างเช่นโควิดสายพันธุ์อังกฤษ (B.1.1.7) เรียกว่า “อัลฟ่า: Alpha” สายพันธุ์แอฟริกาใต้ (B.1.351) เรียกว่า “เบต้า: Beta”
“มาเรีย แวน เคิร์กโคเว” หัวหน้าฝ่ายเทคนิค WHO โพสต์ในทวิตเตอร์ว่า ๆ ไม่มีประเทศไหนควรถูกตราหน้าสำหรับการตรวจพบเชื้อโควิดและรายงานโควิดสายพันธุ์ต่างๆ
ไวรัสทั้งหมดรวมถึง SARS-CoV-2 ซึ่งเป็นไวรัสโคโรนาที่เป็นสาเหตุของ การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สามารถกลายพันธุ์หรือเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา นี่คือสิ่งที่นำไปสู่รูปแบบต่างๆ
WHO ตั้งข้อสังเกตว่าฉลากใหม่ที่ใช้เรียกชื่อไวรัสโควิดสายพันธุ์ต่างๆ ไม่ได้ถูกแทนที่ชื่อทางวิทยาศาสตร์ แต่ชื่อวิทยาศาสตร์จะ “ถูกใช้ในการวิจัยต่อไป” เคิร์กโคเว ทวีต
แม้ว่าชื่อเหล่านี้จะมีข้อดี แต่ชื่อทางวิทยาศาสตร์เหล่านี้อาจพูดและจำได้ยาก และมีแนวโน้มที่จะรายงานผิดพลาด ด้วยเหตุนี้ ผู้คนจึงมักหันไปใช้ชื่อเรียกต่าง ๆ ตามสถานที่ที่ตรวจพบ ซึ่งเป็นการตีตราและเลือกปฏิบัติ ตามประกาศของ WHO
ทางคณะผู้เชี่ยวชาญของ WHO ได้แนะนำให้ใช้ตัวอักษรกรีกเพื่อเรียกชื่อไวรัสสายพันธุ์ต่างๆ แทน ซึ่งดูจะง่ายกว่าและเป็นประโยชน์มากขึ้นสำหรับกลุ่มคนที่ไม่ใช่เป็นนักวิทยาศาสตร์
ทั้งนี้ไวรัส P.1 ซึ่งถูกตรวจเชื้อเจอครั้งแรกที่ประเทศบราซิล จะถูกเรียกว่า “แกมมา: Gamma”
B.1.1.7 ถูกค้นพบครั้งแรกในอังกฤษ เรียกว่า “อัลฟ่า: Alpha”
B.1.617.2 อินเดีย เรียกว่า “เดลต้า:Delta”
B.1.427/429 สหรัฐฯ เรียกว่า Epsilon
P.2 บราซิล เรียกว่า Zeta
B.1.525 หลายประเทศ เรียกว่า Eta
P.3 ฟิลิปปินส์ เรียกว่า Theta
B.1.526 สหรัฐฯ เรียกว่า Iota
B.1617.1 อินเดีย เรียกว่า Kappa
ที่มา- edition.cnn.com