ไทย-เยอรมนี ร่วมมือพัฒนาความร่วมมือด้าน รถไฟ

ไทย-เยอรมนี ร่วมมือพัฒนารถไฟ
รัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ไทย-เยอรมนี ร่วมมือพัฒนาความร่วมมือด้าน รถไฟ


ไทย-เยอรมนี ร่วมมือพัฒนาความร่วมมือด้าน รถไฟ ไทย-เยอรมนี ต่อยอดผลสำเร็จจากการเยือนเยอรมนีของนายกรัฐมนตรี

นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย ว่า เพื่อ เป็นการ ต่อยอดผลสำเร็จ จากการ เยือนสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ของนายกรัฐมนตรี ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบ ร่างความยินยอมร่วมกัน เพื่อ ต่ออายุแถลงการณ์ร่วม แสดงเจตจำนง ว่า ด้วยการ พัฒนาความร่วมมือ ด้านรถไฟ ระหว่าง กระทรวงคมนาคม แห่งราชอาณาจักรไทย และ กระทรวงดิจิทัล และ คมนาคมแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ตามที่ กระทรวงคมนาคม (คค.) เสนอ

แถลงการณ์ ร่วมฯ มี วัตถุประสงค์ เพื่อ พัฒนา และ กระชับความร่วมมือ ด้าน ระบบราง โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง การพัฒนาการขนส่งทางรถไฟ และระบบขนส่งมวลชน ในเมือง ภายใต้กลไก คณะทำงาน ร่วมระบบ รางไทย–เยอรมนี และ คณะทำงานกลุ่มย่อย ตามกิจกรรม ความร่วมมือ ใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่

  • (1) ด้านการวิจัยและพัฒนา
  • (2) ด้านการประกอบการเดินรถ
  • (3) ด้านอุตสาหกรรมระบบราง

กระทรวงคมนาคม และ กระทรวงคมนาคม และ โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล แห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ได้ลงนาม ความตกลง ว่าด้วยการต่ออายุแถลงการณ์ร่วมฯ จำนวน 2 ครั้ง ซึ่ง ที่ผ่านมาฝ่ายไทย และฝ่ายเยอรมนีได้ ร่วมกันจัดกิจกรรม ภายใต้ แถลงการณ์ร่วมดังกล่าว โดย คค. เห็นว่า การได้รับสนับสนุนความร่วมมือทางวิชาการ รวมถึงความร่วมมือและการลงทุนด้านอุตสาหกรรมระบบรางภายใต้แถลงการณ์ร่วมฯ เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายไทย รวมทั้งมีความสอดคล้องกับนโยบายของไทย

แถลงการณ์ร่วมฯ เริ่มมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 ถึงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2568 โดยให้มีการต่ออายุต่อเนื่องไปโดยอัตโนมัติครั้งละ 2 ปี จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะแจ้งยกเลิก

เน้นความร่วมมือด้านระบบราง

สาระสำคัญของแถลงการณ์ร่วมฯ สรุปได้ ดังนี้ 1. วัตถุประสงค์ – เพื่อพัฒนาและกระชับความร่วมมือด้านระบบราง 2. ขอบเขตความร่วมมือทางวิชาการ – สนับสนุนความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมระบบราง ผู้ให้บริการเดินรถภายในประเทศ และผู้เชี่ยวชาญทางวิชาการ องค์กรที่อยู่ในภาคส่วนของระบบราง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่าย

เช่น การหาความเป็นไปได้ที่จะแลกเปลี่ยน ให้ความรู้ และฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัย และเจ้าหน้าที่ทางเทคนิค – สนับสนุนการมีส่วนร่วมของผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมระบบรางสำหรับโครงการความร่วมมือในขอบเขตการขนส่งทางรางและระบบขนส่งมวลชนในเมือง เช่น การสนับสนุนให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อส่งเสริมให้ระบบรางในประเทศไทยมีความทันสมัยอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ 3. ค่าใช้จ่าย – แต่ละฝ่ายจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการดำเนินการตามแถลงการณ์ร่วมฯ ของตนเอง เว้นแต่จะมีการตกลงกันโดยทั้งสองฝ่ายเป็นการล่วงหน้า

เดินหน้าขยายการค้าและการลงทุน

นางรัดเกล้ากล่าวด้วยว่าเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ได้เป็นเจ้าภาพการหารือระหว่างอาหารกลางวัน ร่วมกับกระทรวงเศรษฐกิจ การพัฒนาภูมิภาค และพลังงาน แห่งรัฐไบเอิร์น สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี

ในโอกาสที่ นายโทเบียส ก็อตธาร์ต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การพัฒนาภูมิภาค และพลังงาน แห่งรัฐไบเอิร์น สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ได้เดินทางเยือนประเทศไทย พร้อมผู้บริหารระดับสูงของภาคเอกชนจากรัฐไบเอิร์น 15 บริษัท

โดยรัฐไบเอิร์นเป็นรัฐสำคัญที่มีจำนวนประชากร และขนาด GDP ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเยอรมนี และมีมูลค่าการค้ากับไทย คิดเป็น 1 ใน 5 ของมูลค่าการค้ารวมระหว่างไทย – เยอรมนี จากผลการหารือในครั้งนี้ ได้มีการหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเยอรมนี โดยเฉพาะกับรัฐไบเอิร์น ซึ่งมีความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกันอย่างใกล้ชิด

ทั้งสองประเทศมุ่งขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกัน โดยมีภาคเอกชนเป็นผู้ขับเคลื่อน และส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานและอาชีวศึกษา นอกจากนี้ ยังมีการหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งสำนักงานตัวแทนของรัฐไบเอิร์นประจำภูมิภาคอาเซียนในประเทศไทยซึ่งจะช่วยกระชับความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนของทั้งสองฝ่ายต่อไป

“รัฐบาลให้ความสำคัญในการดึงดูดการค้าและการลงทุน และส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานและอาชีวศึกษา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของไทย รวมทั้งจัดตั้งสำนักงานตัวแทนของรัฐไบเอิร์นประจำภูมิภาคอาเซียนในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะส่งผลให้ความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างไทยและเยอรมนีมากยิ่งขึ้นต่อไป” รองโฆษกฯ รัดเกล้า กล่าว

ทำเนียบรัฐบาล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : การรถไฟฯ จัดเดินขบวนพิเศษ รถจักรไอน้ำ นำเที่ยว