Toys ‘R’ Us เตรียมหวนคืนสมรภูมิค้าปลีกปลายปี หลังโดน Digital Disruption จนหมดลายเจ้าพ่อของเล่นเด็กโลก

ภาพจาก AP

  • เตรียมเปิดร้านค้าปลีกขนาด1หมื่นตรม.เล็กกว่าร้านเดิม 1 ใน 3
  • เปลี่ยนรูปแบบธุรกิจใหม่ พร้อมเปิดบริการช่วงคริสมาสต์
  • หลังประกาศปิดกิจการมาตั้งแต่มี.ค. 2018

Toys ‘R’ Us เตรียมหวนคืนสมรภูมิค้าปลีกปลายปี หลังจากโดน Digital Disruption จนหมดลายเจ้าพ่อของเล่นเด็กโลก


มีรายงานข่าวแจ้งว่า Toys ‘R’ Us “ทอยส์ อาร์ อัส” อดีตยักษ์ใหญ่เครือข่ายร้านค้าปลีกของเด็กเล่นโลก เตรียมหวนคืนธุรกิจค้าปลีกอีกครั้ง คาดว่าจะเปิดร้านพื้นที่ขนาด 10,000 ตารางฟุตหรือ 1 ใน 3 ของร้าน Toys ‘R’ Us ที่เป็นรูปกล่องสี่เหลี่ยมเดิม ในตลาดสหรัฐฯ ช่วงคริสมาสต์ซี่งเป็นฤดูกาลช้อปปิ้งครั้งใหญ่ในช่วงปลายปี โดยรูปแบบธุรกิจอาจจะเป็นไปแบบการฝากขาย จนกว่าผู้บริโภคซื้อสินค้าถึงจะได้รับเงิน


สำนักข่าวบลูมเบอร์กรายงานว่า เป็นเวลาประมาณหนึ่งปีตั้งแต่เดือนมีนาคม 2018 ที่ผ่านมาที่เครือข่ายร้านค้าปลีกของเล่นเด็กชื่อดังรายนี้ประกาศปิดกิจการไป ล่าสุด “ริชาร์ด แบร์รี่” ซึ่งเป็นอดีตผู้บริหาร ปัจจุบันเป็นซีอีโอของบริษัทใหม่ชื่อว่า Tru Kids Inc เตรียมแสดงวิสัยทัศน์ในการประชุมอุตสาหกรรมของเล่นเด็กถึงกระแสข่าวนี้ แต่ทางโฆษกบริษัทนี้ปฏิเสธจะให้รายละเอียด


ทั้งนี้ตลาดได้รอดูว่าการกลับมาของ Toys ‘R’ Us จะช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมของเล่นเด็กมากน้อยเพียงใด เดิมอดีตยักษ์ใหญ่รายนี้มีเครือข่ายในสหรัฐฯมากกว่า 700 สาขา ยอดขายมากกว่า 7,000 ล้านดอลลาร์ฯหรือกว่า 2.1 แสนล้านบาท


ย้อนอดีตไปกว่า 20 ปีที่ผ่านมากิจการของ Toys ‘R’ Us นับเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ คนจะซื้อของเล่นเด็กจะต้องมีซื้อในเครือข่ายร้านค้าปลีกแห่งนี้ แต่เมื่อการพัฒนาเทคโนโลยีเรื่อยมา ผสมโรงกัยบพฤติกรรมของผู้บริโภคซึ่งเป็นเด็กนั่นเองได้เปลี่ยนแปลงไป เริ่มเล่นเกมคอนโซล ซึ่งเป็นเกมต่อพ่วงกับเครื่องรับโทรทัศน์ เรื่อยมาจนเป็นเกมคอมพิวเตอร์ แม้ว่ายอดขายของ Toys ‘R’ Us จะลดลงไม่มากนัก แต่ผลกำไรเริ่มติดลบจนดูเป็นกิจการที่ไม่ปกติ


เมื่อกระแสของโลกออนไลน์ได้รับความนิยมแพร่หลาย เกมออนไลน์ รวมไปถึงการเล่นเกมผ่านสมาร์ทโฟน เป็นตัวเร่งให้ Toys ‘R’ Us ประสบปัญหาหนักขึ้น กิจการมียอดขายลดลง ประสบผลขาดทุนอย่างต่อเนื่อง

อีกทั้งบิสสิเนสโมเดลค้าปลีกได้เปลี่ยนแปลงไป เข้าสู่โลกออกไลน์ อี-คอมเมิร์ชเป็นที่นิยมเพราะความสะดวกสบายช้อปปิ้งหน้าจอ ตัดเงินผ่านบัตรเครดิต สินค้าส่งตรงถึงหน้าบ้าน แต่ทว่ากว่า Toys ‘R’ Us จะกลับลำหันมาทำบ้าง แต่ดูเหมือนจะช้าไปแล้ว คู่แข่งสำคัญไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นคือ amazon.com ผู้ให้บริการอี-คอมเมิร์ช ของ “เจฟฟ์ เบซอส” ที่ปัจจุบันเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกในปัจจุบันนั่นเอง