TikTok เดินเกมรุกยกระดับจากแพลตฟอร์มความบันเทิงสู่ศูนย์รวมความคิดสร้างสรรค์

  • สร้างแรงบันดาลใจและส่งต่อความสุขให้กับผู้คน
  • ผ่าน 3 กลยุทธ์สำคัญ เช่น เน้นการเพิ่มความหลากหลายของคอนเทนต์
  • เปิดกว้างให้ทุกคนสามารถเป็นครีเอเตอร์มืออาชีพ

นายสุรยศ เอี่ยมละออ Head of Marketing ของ TikTok เปิดเผยว่า ปี 2563 ถือเป็นปีที่ TikTok ได้สร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จอย่างท่วมท้น ซึ่งประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตทั้งจำนวนผู้ใช้และการมีส่วนร่วมกับแพลตฟอร์มมากที่สุดประเทศหนึ่งในภูมิภาค รวมถึงการแจ้งเกิดปรากฏการณ์การส่งต่อความสุขและแรงบันดาลใจในปี 2563 จนทำให้เกิดกระแสคอนเทนต์แนวใหม่ เช่น #TikTokUni ที่สร้างยอดวิวสูงสุดในประเทศไทยกว่า 10.7 พันล้านบาท

รวมถึงการมีส่วนร่วมกับการสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้คนและชุมชนบน TikTok ซึ่งเห็นได้จากในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID–19 ที่ TikTok ได้ชวนคนไทยมาเปลี่ยนความเครียดให้เป็นความสนุกผ่านแคมเปญ #เมษาAtHome ที่ชวนคนไทยมาแชร์คลิปการกักตัวอยู่บ้านอย่างสร้างสรรค์จนมียอดวิวสูงถึง 1.9 พันล้าน รวมไปถึงกระแสไวรัลที่เป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์มากมาย ทั้งไวรัลแอคชั่นยอดฮิต อาทิ #wipeitdown ที่มียอดวิวสูงถึง 10.4 พันล้าน #igogechallenge กับยอดวิวที่สูงถึง 5.9 ล้าน และเพลงดังยอดฮิต ใส่ใจได้แค่มอง จากศิลปิน Gx2 , เพลง พักก่อน จากศิลปิน Milli และ เพลง เจนนุ่นโบว์ อีกทั้งการแจ้งเกิดของครีเอเตอร์หน้าใหม่ และการใช้ TikTok เป็นพื้นที่ในการแสดงตัวตนของเหล่าเซเลบริตี้ชื่อดังมากมาย

สำหรับก้าวต่อไปของ TikTok ในประเทศไทย TikTok มีความพร้อมที่จะยกระดับการสร้างการรับรู้จากแพลตฟอร์มเพื่อความบันเทิงสู่ศูนย์รวมความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจ ผ่าน 3 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่

1.กลยุทธ์ด้านคอนเทนต์ คือ การสร้างความหลากหลายของคอนเทนต์ เพื่อตอบโจทย์ความสนใจที่หลากหลายของผู้ใช้ในแต่ละกลุ่ม อาทิ การพาร์ทเนอร์กับกลุ่มพันธมิตรในอุตสาหกรรมบันเทิงชั้นนำและเหล่าดาราศิลปิน ในการสร้างสรรค์คอนเทนต์เอ็กคลูซีฟในหลากหลายรูปแบบ อาทิ TikTok Stage with BLACKPINK, WOODY’S TIKTOK STAR LIVE

และการสร้างคอนเทนต์เจาะกลุ่มเซ็กเมนต์ที่มาแรง อาทิ กลุ่มแฟนคลับซีรีย์ Y, กลุ่มผู้ชายที่ชื่นชอบคอนเทนต์เทคโนโลยีและกีฬา หรือกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการดูดวง เป็นต้น

2.กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์หรือการพัฒนาแพลตฟอร์ม คือ การเปิดฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อยกระดับประสบการณ์บนแพลตฟอร์มให้กับผู้ใช้ อาทิ TikTok LIVE ที่เปิดให้ผู้ใช้ที่มียอดผู้ติดตาม 1,000 คนขึ้นไป และมีอายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถเปิดใช้ฟีเจอร์ livestreaming ได้ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยม รวมถึงการเพิ่มความยาวของคอนเทนต์วิดีโอบนแพลตฟอร์มเป็น 3 นาที สำหรับผู้ใช้ที่มีผู้ติดตาม 5,000 คนขึ้นไป เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ของผู้ใช้บนแพลตฟอร์ม

3.กลยุทธ์ด้านครีเอเตอร์ คือ TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเป็นครีเอเตอร์มืออาชีพได้ ผ่านการสร้างสรรค์คอนเทนต์ และการเข้าร่วมในแคมเปญต่างๆ เพื่อเชิญชวนให้ผู้มีความรู้หรือผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ เข้ามาเป็นครีเอเตอร์ร่วมสร้างสรรค์คอนเทนต์ เช่น ความสำเร็จของแคมเปญ #TikTokUni ที่ได้แจ้งเกิดครีเอเตอร์แนวสาระความรู้ในหลากหลายแขนง พร้อมด้วยการจัดกิจกรรมเพื่อให้ความรู้ในการพัฒนาวิธีการสร้างสรรค์และนำเสนอคอนเทนต์ได้อย่างน่าสนใจ และการเปิดบริการ “TikTok Creator Marketplace” ในการเชื่อมครีเอเตอร์และแบรนด์ เพื่อต่อยอดโอกาสสู่การสร้างรายได้ให้กับครีเอเตอร์บน TikTok ได้อย่างแท้จริง

TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่กำลังได้รับความสนใจในหลากหลายประเทศทั่วโลก และสำหรับประเทศไทย ถือเป็นประเทศที่มีความโดดเด่นในด้านการเติบโตของผู้ใช้ ครีเอเตอร์ รวมถึงเหล่าพันธมิตรแบรนด์ต่างๆ ที่ให้ความสนใจในการใช้แพลตฟอร์ม TikTok เป็นเครื่องมือในการสร้างสรรค์และการทำการตลาดดิจิทัลเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Y และ Gen Z ซึ่งในปัจจุบันเราพบว่า กลุ่มผู้ใช้ TikTok มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในกลุ่มอายุ ‪18 – 34‬ ปี ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนมากกว่า 60% ของผู้ใช้ทั้งหมดในประเทศไทย

“ความสำเร็จของ TikTok ในวันนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในประเทศไทย เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นแล้วในหลายประเทศทั่วโลก โดยเป้าหมายสำคัญที่จะทำควบคู่ไปกับการพัฒนาประสบการณ์บนแพลตฟอร์มให้กับผู้ใช้ของเรา TikTok จะไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อตอบโจทย์ความ ต้องการของผู้ใช้ในทุกกลุ่มอายุและประเภทความสนใจ สู่เป้าหมายการสร้างแพลตฟอร์มให้เติบโตอย่างยั่งยืนในประเทศไทย ควบคู่ไปกับการสร้างสรรค์ชุมชนที่ปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้ ครีเอเตอร์ และพันธมิตรแบรนด์ต่างๆ ของเราตลอดไป”