“เศรษฐา” พบ “มาครง” ยังฟิต ขายแลนด์บริดจ์ชวนฝรั่งเศสมาลงทุน พร้อมร่วมมือในการพัฒนา สินค้าที่เป็น ซอฟต์พาวเวอร์ ผ้าไทย และแฟชั่น
- หวังเห็นผลงานของดีไซน์เนอร์ชาวไทย
- จัดแสดงในงาน Paris Fashion Week
วันนี้ (11 มีนาคม 2567) ณ ทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส กรุงปารีส นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง และนายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้หารือและแถลงข่าวร่วมกัน โดยนายเศรษฐาระบุว่า ทั้ง 2 ประเทศ มีจุดยืนและวิสัยทัศน์ในการบริหารประเทศที่คล้ายคลึงกันในหลายเรื่อง เช่น การส่งเสริมประชาธิปไตย การสร้างโลกที่มีความมั่นคงและยั่งยืน และจุดยืนร่วมกันในการรักษาสันติภาพของโลก ตลอดจนเป้าหมายทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกัน
ทั้งนี้ได้หารือกัน ทั้งเรื่องการเป็นหุ้นส่วนด้านการผลิตยานยนต์แห่งอนาคต การบิน และการขนส่งในภูมิภาค จะเชิญชวนบริษัทชั้นนำด้านการบริหารจัดการท่าเรือของฝรั่งเศสให้พิจารณาลงทุนในโครงการแลนด์บริดจ์ของไทย การเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจการค้าและการลงทุน ความร่วมมือในการพัฒนาสินค้าที่เป็น ซอฟต์พาวเวอร์ เช่น ผ้าไทย และแฟชั่น การเป็นหุ้นส่วนด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
“การหารือในวันนี้ จะเป็นการย้ำความตั้งใจของประเทศไทยที่จะเป็นหุ้นส่วนที่ใกล้ชิด ยั่งยืนและรอบด้านกับฝรั่งเศสและหวังอย่างยิ่งว่า ฝรั่งเศสจะให้การสนับสนุนคำขอของไทย ในเรื่องการยกเว้นวีซ่าเข้าเขตเชงเกนให้แก่คนไทยซึ่งปัจจุบันมีกว่าสองแสนคนต่อปี” นายเศรษฐากล่าว
นอกจากนี้เรื่องการเป็น Aviation Hub ของไทย ได้ขอให้ทางรัฐบาลฝรั่งเศสสนับสนุนการลงทุนในประเทศไทย โดยเสนอให้ Airbus จัดตั้งสำนักงานภูมิภาคในไทยด้านธุรกิจการบินอวกาศ และเสนอความร่วมมือด้านการพัฒนาเชื้อเพลิงอากาศยานอย่างยั่งยืน เพื่อสนับสนุนการเป็นศูนย์กลางการบินของไทย
ส่วนเป้าหมายการเป็น Future Mobility Hub ได้เชิญชวนบริษัทยานยนต์ฝรั่งเศสที่ผลิตเครื่องยนต์และแบตเตอรี่ไฟฟ้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น และเสนอจัดทำ “Green Lane” กับอียูสำหรับลดภาษีสินค้าเพื่อสิ่งแวดล้อมเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยทางฝรั่งเศสสนใจอย่างมากที่จะมีส่วนร่วมในโครงการพัฒนาระบบราง ในแผนการเป็น Logistic Hub ของไทย และจะติดตามอย่างใกล้ชิด
“ผมยังได้เชิญชวนให้ฝรั่งเศสมาร่วมเป็นหุ้นส่วนในโครงการ Landbridge พร้อมทั้งมาลงทุนเรื่องพลังงานสะอาด รถยนต์ EV และโดยเฉพาะการลงทุนและให้การสนับสนุนทางด้านแฟชั่น โดยเฉพาะแฟชั่นชั้นสูงซึ่งเป็นสาขาที่ฝรั่งเศสมีความโดดเด่น และหากผลงานของดีไซน์เนอร์ชาวไทยได้มาแสดงในงาน Paris Fashion Week หรือได้จัดแสดงในห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง Bon Marche, Printemps และ Gallerie Lafayette ก็จะเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ให้คนในวงการแฟชั่นไทยได้อีกมาก และขอรับการสนับสนุนในการเจรจาความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหภาพยุโรปด้วย” นายกรัฐมนตรีของไทยกล่าว
ขณะที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้กล่าวว่า ทั้งสองประเทศต้องร่วมมือกันทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การค้า และการมุ่งมั่นเพื่อรับมือประเด็นความท้าทายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะทำให้ความสัมพันธ์ทั้งทวิภาคี และพหุภาคีเกิดเป็นสันติภาพ และความมั่นคงในโลก
