การเมืองไทย เขม็งเกลียว ใครอยู่ใครไป ใครดับใครเกิด จบเดือนนี้

การเมืองไทย
คอลัมน์ "คุณย่าขาซิ่ง" วันที่ 1 มิถุนายน 2567

ถ้าไม่พูดเรื่องการบ้าน การเมืองไทย วันนี้ เห็นทีจะตกขบวนไปไกลเลย เพราะย่างเข้าเดือนมิถุนายน กูรู การเมือง ให้วาระไว้ชัดเจนว่า ทุกสิ่งอย่างต้องจบ และ เสร็จสิ้นภายในเดือนนี้! 

ฝุ่นตลบ การเมืองไทย ความวุ่นวาย ถึงเวลาต้องสงบนิ่ง

เพราะเดือนหน้า คือ เดือนแห่งการเฉลิมฉลองที่รัฐบาล ทุกหน่วยราชการ และภาคเอกชน จะร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดพระราชพิธีมหามงคลถวายแด่ในหลวง ร.10 ซึ่งทรงมีพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ หรือ 72 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฏาคม 2567 นั่นเอง

ก่อนจะพาไปดูกำหนดการต่างๆ ขอเล่าถึงการสดับตรับฟังผู้คนที่ออกมาวิเคราะห์วิจารณ์การเมืองไทยยามนี้สักนิด เพราะสำคัญตรงที่คนส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า ประเทศไทยเพิ่งจะกลับเข้าไปอยู่ในจอเรดาร์ของโลกเพียงไม่กี่เดือน ก็มีลางบอกเหตุเสียแล้วว่า…

อนาคตทั้งใกล้ และไกล การเมืองไทยคงจะเกิดความยุ่งยาก และอาจส่งผลให้ชาวโลกต้องมานั่งพินิจพิเคราะห์กันใหม่ว่า ควรจะเข้ามาลงทุนโครงการต่างๆที่รัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน นำไปเสนอขาย และชักชวนให้พวกเขาเข้ามาซื้อของดีๆในประเทศไทยหรือไม่?

ชนวนเหตุ การเมืองไทย ป่วน 

อย่างที่รู้ๆกันอ่ะนะว่า ความยุ่งยากทั้งหลายทั้งปวงเริ่มต้นมาจากประเด็นที่ 40 สว.ออกมายื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญรับพิจารณาว่า สมควรจะถอดถอน นายเศรษฐา ออกจากความเป็นนายกฯหรือไม่ หรือแค่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หลังจาก

ที่แต่งตั้งให้ นายพิชิต ชื่นบาน อดีตทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งเป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ

เหตุที่ต้องการจะสอยนายเศรษฐาคาต้นเช่นนี้ ก็เพราะกลุ่มอำนาจเก่า อยากเป็นนายกรัฐมนตรี จึงเล็งช่องโหว่ไปที่ นายพิชิต ซึ่งเคยถูกศาลฏีกาตัดสินให้มีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล และถูกจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน ในคดีนำเงิน 2 ล้านบาทใส่ถุงขนมไปให้เจ้าหน้าที่ศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2551

แม้จะพ้นโทษจำคุกมาแล้วเกิน 10 ปี แต่พฤติการณ์นี้ขัดต่อรัฐรรมนูญ มาตรา 170(4) ประกอบมาตรา 160(4) และ (5) ว่าด้วยการขาดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และมีพฤติกรรมฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง 

และแม้ว่านายพิชิต จะลาออกจากตำแหน่งแล้ว แต่คนแต่งตั้งยังมีความผิดอยู่ นี่จึงเป็นเหตุให้ ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องของ 40 สว.แต่ยังไม่สั่งให้ นายเศรษฐา หยุดปฏิบัติหน้าที่ กระนั้นก็ตาม นายเศรษฐา ยังมีโอกาสยื่นคำชี้แจงข้อกล่าวหาต่อศาลภายใน 15 วัน

หลังรับคำร้องเมื่อวันที่ 23 พ.ค.หนังสือจากศาลรัฐธรรมนูญ คงจะต้องส่งไปถึงมือนายเศรษฐา โดยเร็วในเวลาไล่เลี่ยกัน

การเมืองไทย ไทม์ไลน์
ไทม์ไลน์ การเมืองไทย เดือนมิถุนายน2567

ลำดับเหตุการณ์สำคัญ ในเดือน มิ.ย.

ทีนี้มาลำดับเวลาที่ค่อนข้างจะชุลมุนชุลเกในเดือนนี้กันสักนิด อันดับแรกเลย วันพรุ่งนี้(2 มิ.ย.) พรรคก้าวไกล ต้องยื่นชี้แจงข้อกล่าวหายุบพรรคเป็นครั้งสุดท้ายหลังจากที่ได้รับการขยายระยะเวลาให้

คดีนี้คือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกลในความผิดฐานมีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ยื่นพรุ่งนี้ นับไปอีก 15 วัน ศาลท่านอาจจะเรียกวันที่ 17 – 18 – 19 มิ.ย.วันใดวันหนึ่ง เพื่อไปฟังคำตัดสิน ส่วนวันที่ 18 มิ.ย.อัยการสูงสุดนัดส่งตัว นายทักษิณ ไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญาในคดี 112 นัยว่า นายทักษิณ มีสิทธิต่อสู้คดีเพียงศาลชั้นต้น กับศาลอุทธรณ์ เท่านั้น…เข้าตำรา หลังพิงฝา เสียแล้ว

กูรูการเมืองหลายคน ให้ความเห็นเหมือนๆกันว่า การจะขอนิรโทษกรรม หรือลดโทษอีก คงเป็นเรื่องยาก แต่ถ้ารีบเร่งลดบทบาทตัวเองลง ไม่ออกไปแสดงความเป็นผู้มีบารมีกว้างขวางเกินขอบเขตที่ได้รับ หรือทำให้ผู้คนคิดว่า มีนายกฯซ้อนนายกฯอยู่ ก็อาจจะพอบรรเทาโทษได้ แต่จะบรรเทาโทษได้ในแบบใด ไม่มีใครคาดเดา หรือ ทำนายทายทักได้

การเมืองไทย ต้องเกิดการแลกเปลี่ยน

เศรษฐา รอด ทักษิณ ไม่รอด

หรือ เศรษฐา ไม่รอด แต่ ทักษิณ รอด!

อาจารย์สุขุม นวลสกุล ให้ความเห็นว่า บางที คดีของ นายเศรษฐา กับ นายทักษิณ อาจต้องแลกเปลี่ยนกัน แต่ไม่ได้ชี้ชัดว่า เศรษฐา จะอยู่ต่อ และ ทักษิณ ติดคุก หรือ เศรษฐา ต้องไป แต่ ทักษิณ รอด 

ขณะที่ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยอมรับว่า คดี นายทักษิณ ทำให้การขับเคลื่อน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม มีอุปสรรค และ กลายเป็นปัญหาทางการเมืองมากขึ้น

ส่วนเรื่องที่ก้าวไกลจะโดนยุบพรรค ดูไม่ได้สร้างความกังวลให้มากนักแล้ว เพราะมีกระแสข่าวจากการวิเคราะห์ของบรรดากูรูทั้งหลายว่า ดีไม่ดี งานนี้ ก้าวไกล อาจรอด เผื่อเอาไว้ถ่วงดุลอำนาจทางการเมืองกับ เพื่อไทย ก็ได้!!

3 เรื่อง บวก 2 บิ๊กนายพลตำรวจ

3 เรื่องข้างต้นเนี่ย อย่างไรเสียก็ต้องเป็นข่าวพาดหัวยักษ์แน่ๆ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า

ยังมีเรื่องใหญ่อีกเรื่องคาอยู่ หลังจากที่ นายกฯมีคำสั่งให้ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ออกจากราชการ

แต่ปรากฏว่า จนถึงบัดป่านนี้ ยังไม่ได้มีการดำเนินงานตามขั้นตอนของกฏหมายให้สมบูรณ์ พูดง่ายๆคือ ยังไม่ได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ซ้ำยังมีกระแสข่าวว่า ผู้มีบารมีไปวิ่งเต้นให้ “บิ๊กโจ๊ก” ไม่ต้องออกจากราชการอีกต่างหาก

ในขณะที่ สำนักงาน ป.ป.ช.เพิ่งแจ้งข้อกล่าวหา “บิ๊กต่อ” ต่อศักดิ์ สุวิมล ผบ.ตร และ ภริยา ฐานไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สินบ้านที่อังกฤษ ซึ่งจะมีผลให้ “บิ๊กต่อ” อาจต้องออกจากราชการก่อนเกษียณอายุ ทีนี้จะชี้แจงเรื่องการตัดสินบนมาตรฐานเดียวกันได้อย่างไร?

จับยามสามตากันเอาเองละกัน

คุณยาขาซิ่ง

ศาลรัฐธรรมนูญ