

ททท.ใส่เกียร์ลุยตลาดทัวร์ 4 ทวีปขานรับสัญญาณดีปี’67 ทำเงินเข้าเป้า 7.69 แสนล้าน ปี’68 พลิกเกมใหม่ปั๊ม 8.69 แสนล้าน ผนึก “แอร์ไลน์สโลก” เพิ่มอัตราบรรทุกและเที่ยวบินตรงเข้าไทย ผนวกกลยุทธ์ 3 C ดันปี “อะเมซิ่ง แกรนด์ เยียร์” ต่อยอดวีซ่าฟรี 93 ประเทศ ปลุกเอกชนทำเที่ยวยั่งยืนรับมือกฎหมายกับเทรนด์ใหม่ของโลก

นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า วางกลยุทธ์ตลาดท่องเที่ยวระยะไกล (longhaul visitors) บินมาไทยเกิน 6 ชั่วโมง สถานการณ์ครึ่งปีหรือ 6 เดือนแรก มกราคม-มิถุนายน 2567 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้ว 4.8 ล้านคน มีส่วนแบ่งตลาด 30 %
ช่วงครึ่งปีหลัง 2567 มีสัญญาณดีที่จะเพิ่มจำนวนและรายได้เป็นไปตามเป้าหมายปีนี้ 769,824 ล้านบาท คิดเป็น 40 % จากจำนวนนักท่องเที่ยว 9,938,300 คน ประมาณ 28-30 % ของตลาดต่างประเทศทั้งหมด

ปีงบประมาณ 2568 จะเริ่ม 1 ตุลาคม 2567 “ตลาดระยะไกล” ทั้ง 4 ทวีป ตั้งเป้าจะทำรายได้เข้าประเทศให้ถึง 869,200 ล้านบาท คิดเป็น 39 % เพิ่มขึ้นจากปีนี้ราว 100,000 ล้านบาท ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยว 10,622,000 ล้านคน คิดเป็น 27 % ของเป้าหมายรวมตลาดต่างประเทศทั้งหมด
โดยจะต้องบริหารจัดการอย่างเข้มข้นด้านซัพพลายกับ “สายการบินนานาชาติ” ปัจจุบันสามารถดึงพนักงานและเที่ยวบินกลับมาบริการได้แล้ว 85-90 % ประเมินจากอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ย (Load factor) ของเที่ยวบินยุโรป ทำได้เกิน 85 % อเมริกาพ 97 % แอฟริกา 80% ตะวันออกลาง 70-80 %
เป็นผลดีกับความต้องการของนักเดินทางหรือดีมานต์ตลาดซึ่ง ททท.จะต้องเข้าไปช่วยรักษาอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยร่วมกับสายการบินไว้ให้ได้เกิน 80 % หากธุรกิจอยู่ได้ก็จะช่วยเมืองไทยรักษาจุดหมายปลายทางครองตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกลไว้ได้เช่นกัน
สถานการณ์การบินตารางบินฤดูหนาวเริ่มปลายเดือนตุลาคม 2567-28 มีนาคม 2568 ททท.จะต้องเร่งขับเคลื่อนตลาดเชิงรุกเต็มรูปแบบ ประกอบด้วย

“ตลาดอเมริกา” จะมีแอร์ แคนาดา กลับมาบินเพิ่มความถี่และทำให้อัตราการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยเต็มทุกเที่ยวบิน
“ตลาดยุโรป” มีสายการบินจำนวนมากเปิดบินเพิ่มขึ้น ได้แก่ บริติชแอร์เวย์/อังกฤษ คอนดอร์/เยอรมัน ไอเบอโร่เจ็ต/สเปน ททท.วางเป้าหมายใหญ่เน้นทำแคมเปญร่วมกับสายการบินรายใหญ่โดยมีบริษัทนำเที่ยวผลิตแพกเกจท่องเที่ยววางขายในแต่ละตลาดเพื่อเพิ่มอัตราการบรรทุกผู้โดยสารมากขึ้น ตอนนี้มีสายการบินประกาศบินเข้าไทย
ได้แก่ คอนดอร์ บิน แฟรงเฟิร์ต (เยอรมนี)-กรุงเทพฯ 4 เที่ยว/สัปดาห์ เริ่ม 22 กันยายน 2567 และเส้นทางบินตรง แฟรงเฟิร์ต (เยอรมนี)-ภูเก็ต 2 เที่ยว/สัปดาห์ เริ่ม 21 กันยายน 2567 จะออกเดินทางจากปารีส ลียง บอร์โดซ์ นีซ ตูลูส และมาร์กเซย ฝรั่งเศส สายการบินลุฟท์ฮันซ่า และ ITA ก็จะเปิดเส้นทางบิน ปารีส ฝรั่งเศส-กรุงเทพฯ 5 เที่ยว/สัปดาห์ เริ่ม16 พฤศจิกายน 2567
“ตลาดตะวันออกกลาง” สายการบินต่าง ๆ กลับมาเปิดบินตรงสูงกว่าปีก่อนเกิดโควิด ททท.จะต้องพยายามมากขึ้นช่วยสายการบินทำอัตราการบรรทุกเพิ่มจากปัจจุบันอีก 5 % จาก 80 % เป็น 85 % รุกเจาะนักเดินทางตลาดคุณภาพสูงหันมาซื้อที่นั่งเที่ยวบินชั้นธุรกิจ/บิสิเนสคลาสมากขึ้น
นายศิริปกรณ์ กล่าวว่า ปี 2568 ททท.จะนำเสนอสินค้าท่องเที่ยวในตลาดระยะไกลไฮไลต์หลักคือ “สินค้าการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน :Sustainable Tourism” ผลสำรวจภาพรวมนักท่องเที่ยวตะวันออกกลาง จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มากกว่า 83 % ยอมจ่ายเงินแพงขึ้น

เพื่อโดยสารเครื่องบิน พักโรงแรม และรับประทานอาหาร ในสถานที่ซึ่งมีมาตรฐานการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อการท่องเที่ยว ดังนั้นโดยภาพรวมแล้วสินค้าท่องเที่ยวที่ยั่งยืนจะเกี่ยวข้องโดยตรงกับเทรนด์การเลือกเดินทางในอนาคตอันใกล้นี้ 3 เรื่อง 3 C ประกอบด้วย
- เรื่องที่ 1 Complience กฎหมายว่าด้วยเรื่องการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม นับจากนี้เป็นต้นไปหากจะเป็นคู่ค้ากับบริษัทในประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) จะต้องมีหลักฐานยืนยันเรื่องการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม และผ่านมาตรฐานอย่างแท้จริง ขณะนี้เริ่มใช้ภายในสหภาพยุโรปด้วยกันเอง ส่วนธุรกิจท่องเที่ยวในเมืองไทยต้องเตรียมความพร้อมอีก 1-3 ปีหน้า
- เรื่องที่ 2 พฤติกรรมนักท่องเที่ยวหรือ Customer inside ตัวอย่าง คนในตะวันออกกลาง ยินดีจะจ่ายแพงขึ้นเพื่อใช้บริการสายการบินที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงการบินชีวภาพหรือ SAF :Sustainable Aviation Fuel ลดคาร์บอนไดออกไซด์ ตามเทรนด์ไม่ละอายที่จะบินซึ่งตอนนี้เกิดเป็นกระแสเรียกว่า shame to fly ขณะนี้มีบางประเทศใช้วิธีทำโปรโมชั่นลดราคาตั๋วโดยสารรถไฟเดินทางแบบลดมลภาวะ
- เรื่องที่ 3 เส้นทางตลอดห่วงโซ่การเดินทางท่องเที่ยวหรือ Customer Journey ทุกจุดที่เข้าสู่เมืองไทย (touch point) สามารถใช้บริการเครือโลจิสติกส์ที่ลดมลภาวะได้ด้วยเช่นกัน
นายศิริปกรณ์ กล่าวว่า เตรียมแผนขานรับ Amazing Thailand Grand Year 2025 :ปีการท่องเที่ยวไทย 2568 จะมีทั้งความแกรนด์ทั้งประสบการณ์ ความเคลื่อนไหว การเชื้อเชิญ/invitation และอีกหลายกิจกรรม ทางตลาดยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ตอนนี้กำลังจะเป็นตอบโจทย์ภาคจบด้วย XYZ ประกอบด้วย
X : Xtraodinary Destination พื้นที่ท่องเที่ยวที่พิเศษสุด ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวทุกวัย โดยมีรูปแบบนำเสนอขาย เช่น แกรนด์อีเวนต์ต่าง ๆ มากมาย
Y :Your Stories Never End ประสบการณ์ท่องเที่ยวเมืองไทยในการเดินทางได้หลากหลายอย่างไม่สิ้นสุด ไฮไลต์เรื่องมาตรการตามนโยบายรัฐบาลเปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วโลก 93 ประเทศ จากปกติ 57 ประเทศ สามารถพำนักอยู่ในไทยได้มากถึง 60 วัน จากเดิม 30 วัน จึงทำให้นานาประเทศมาแล้วสามารถเที่ยวเมืองไทยได้แบบไม่มีวันจบอย่างแน่นอน
Z :Net Zero Tourism การท่องเที่ยวลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์และลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกแบบเป็นศูนย์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการส่งเสริมหรือเพิ่มเป้าหมายตลาดท่องเที่ยวระยะไกลหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวเมืองไทยในระยะยาว
เรื่องโดย #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ต่างชาติเที่ยวไทย 7 เดือน พุ่ง 20 ล้านคน รายได้ แตะ 1 ล้านล้าน