ททท. กระหน่ำตลาดครึ่งหลังปี’67 งัด 2 โครงการ “TTM +2024” ดึงคู่ค้าต่างชาติ จับคู่ซื้อขายท่องเที่ยว เกือบพันรายเปิดแผน “Airlines Focus” ซัมเมอร์นี้ทั่วโลก แห่บินเข้าไทยเพิ่ม 28 % ได้ 12 แอร์ไลน์สตะวันออกกลาง น้องใหม่ เยอรมันสเปน 4 แอร์ไลน์ส เริ่มบิน 30 พ.ค.67
นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป อเมริกา แอฟริกา และตะวันออกกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าททท.เดินหน้าขับเคลื่อนการท่องเที่ยวทำรายได้ตลาดต่างประเทศให้ได้ตามเป้าหมาย 1.921 ล้านล้านบาท
ในช่วงครึ่งปีหลังจึงเร่งทำการขาย 2 โครงการใหญ่ ได้แก่ โครงการแรก จัดมหกรรมงาน “Thailand Travel Mart Plus 2024 :TTM+” เข้าสู่ปีที่ 21 เริ่มทศวรรษที่ 3 จะจัดระหว่างวันที่ 5-7 มิถุนายน 2567 ที่จังหวัดพังงา เป็นงานจับคู่เจรจาธุรกิจการท่องเที่ยว มีผู้สนใจลงทะเบียนแล้วเป็นตัวแทนผู้ขาย (sallers) ในไทย กับผู้ซื้อ (buyers) จากทั่วโลกทุกฝ่ายรอคอยจะร่วมงานโดยจะมีความพิเศษ 4 พลัส ได้แก่
ความพิเศษ 4 พลัส
- พลัสที่ 1 เชิญชวนกลุ่มเพื่อนบ้านกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง Greater Mekhong Sub-region :GMS นำสินค้าการท่องเที่ยวมาร่วมขายเชื่อมโยงรองรับตลาดระยะไกลข้ามทวีปได้ด้วย
- พลัสที่ 2 ทำสถิติสร้างประวัติศาสตร์ดดยมีจำนวนผู้เข้าร่วมเจรจาธุรกิจผู้ขายมากที่สุด 430 ราย และผู้ขายทั่วโลกมาร่วม 425 ราย
- พลัสที่ 3 จัดงานเทรดแบบยั่งยืนอย่างมีคุณภาพมุ่งเน้นดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดงานปลอดพลาสติกป้ายเริ่มด้วยป้ายชื่อจะทำเป็น E-Badge ให้สแกนคิวอาร์โค้ดเข้าออกงานททท.ร่วมกับพันธมิตรมาบริหารจัดขยะต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ เช่น ลดปริมาณขยะอาหารนำไปผลิตปุ๋ยธรรมชาติ แต่ละวันจะมีเครื่องมือวัดปริมาณลดก๊าซเรือนกระจก คาร์บอนไดออกไซด์ และอื่น ๆ
พลัสที่ 4 สถานที่จัดเลือกเขาหลัก จังหวัดพังงา จัดนอกกรุงเทพฯ ในภาคใต้เป็นปีแรก ปีต่อไปก็จะเวียนอย่างทั่วถึงไปยังจังหวัดอื่น ๆ ตอนนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยจากงาน TTM+2024 เมื่อบริษัทตัวแทนผู้ซื้อการท่องเที่ยวจากทั่วโลกยอมจ่ายเงินเองกว่า 30 %
โครงการที่ 2 ททท.เดินหน้ายุทธศาสตร์ Airlines Foucus ททท.นำต่อเนื่องมาตั้งแต่เปิดแซนด์บ็อกซ์ช่วงโควิด-19 จนถึงปัจจุบัน จากการหารือกับทางสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ยืนยันข้อมูลตารางบินฤดูร้อน/SUMMER 2567 ในภาพรวมมีสัญญาณดีการบินจากทั่วโลกเข้าไทยเพิ่มขึ้น 28 % จะสามารถปิดช่องโลว์ซีซันโดยมีตลาดระยะไกลเที่ยวเมืองไทย ซึ่งได้ทำนานาประเทศเดินทางเข้าไทยสะดวกหรือง่ายขึ้นเรียกว่า Ease of travelling จากนี้ไปจะต้องทำให้การทำธุรกิจท่องเที่ยวคง่ายขึ้นด้วยหรือเกิด Ease of Business โดยใช้เที่ยวบินระหว่างประเทศกระจายนักท่องเที่ยวไปยังเมืองหลักเมืองรองอย่างมีประสิทธิภาพตามนโยบายรัฐบาล
ปี 2567 ททท.พบการบินนานาชาติเลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทางเปลี่ยนแปลงใหม่ชัดเจน 3 มิติ ได้แก่
- มิติที่ 1 กลุ่มสายการบินประจำกลับมาบินเพิ่มมากขึ้น เช่น การบินไทย เปิดอิสตันบูล-กรุงเทพฯ สแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ส บินโคเปนเฮเก้น-กรุงเทพฯ สายการบินเอมิเรตส์ สายการบินเอทิฮัด เพิ่มความถี่เที่ยวบินจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มาไทยมากขึ้น หรืออิสราเอล บินเทเลวีฟ เข้ากรุงเทพฯ และภูเก็ต คาเธย์แปซิฟิก บินมิลาน (อิตาลี) เข้ากรุงเทพฯ กลับฮ่องกง
- มิติที่ 2 กลุ่มสายการบินที่ไม่เคยมาไทยเริ่มเปิดเส้นทางบินตรงจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น สายการบินแถบตะวันออกกลาง แอร์อาระเบีย บินตรง ซาจาร์-กรุงเทพฯ และภูเก็ต ส่วนแอร์แคนาดา บินแวนคูเวอร์-กรุงเทพฯ ปัจจุบันมีเที่ยวบินตะวันออกกลางเข้าออกเมืองไทย 12 สายการบินหลัก 268 เที่ยว/สัปดาห์
- มิติที่ 3 สายการบินเช่าเหมาลำ (Charter flight) มีมากมาย เช่น จากแต่ละทวีปกำลังทำตลาดกันอย่างคึกคัก
ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567 เป็นต้นไปจะมีสายการบินใหม่สุดต้อนรับตารางบินฤดูร้อน 2 สายการบิน ได้แก่ 1.สายการบิน Iberojet โเริ่ม 31 พฤษภาคม บินตรง แมดริด (สเปน)-กรุงเทพฯ ด้วยเครื่องบินลำตัวกว้างขนาดบรรทุก 430 ที่นั่ง/เที่ยว จะสร้างผลดีอย่างมากเพราะจะได้ทั้งตลาดสเปนและอเมริกาใต้อย่าง บราซิล เข้ามาเที่ยวเมืองไทยด้วย
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่พร้อมจะเดินทางจำนวนมาก 2.สายการบิน SCAT Airlines จัดเช่าเหมาลำบินตรงเริ่ม 30 พฤษภาคม นี้ จากคาซัคสถาน เข้าสู่สุราษฎร์ธานี ตอบโจทย์นโยบายตลาดเมืองรองสู่เมืองรอง จำนวน 1 เที่ยว ขนาดบรรทุกผู้โดยสาร 213 คน/เที่ยว พักค้างคืนในไทย 11 คืน 12 วัน
ส่วนตลาดเยอรมันจะเพิ่มเที่ยวบิน 3 แอร์ไลน์ส ได้แก่ 1.การบินไทยเตรียมเพิ่มไป-กลับ กรุงเทพฯ-แฟรงเฟิร์ต โดยมีน้องใหม่ 2.สายการบิน Condor บินสัปดาห์ละ 7 วัน เริ่มกันยายน 2567 จากแฟรงเฟิร์ต เข้ากรุงเทพฯ 4 เที่ยว/สัปดาห์ และภูเก็ต 3 เที่ยว/สัปดาห์
ซึ่งมีจุดเด่นรองรับตลาดกลุ่มเศรษฐีรุ่นใหม่ มิลเลเนียล Young Execlutive กลุ่มเดินทางท่องเที่ยวครั้งแรก ซึ่งจะเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มซ้ำในอนาคตต่อไป 3.บริติช แอร์เวย์ส จะเริ่มช่วงตารางบินฤดูหนาว ตุลาคม 2567-มีนาคม 2568 จะพิจารณาบินตรง ไป-กลับ จากสนามบิน Gatwick เส้นทาง ลอนดอน-กรุงเทพฯ 3 เที่ยว/สัปดาห์ จำนวน 332 ที่นั่ง/เที่ยว
นายศิริปกรณ์กล่าวว่า ททท.ยังได้ประเมินผลความสำเร็จการนำผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวไทยเข้าร่วมงานเทรดรายการใหญ่ของโลก Arabian Travel Mart :ATM 2024 เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2567 ที่กรุงดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พร้อมกับเปิดโอกาสให้เอกชนที่ไม่ได้เข้าร่วมงานมีโอกาสร่วมทริปไปเจาะตลาดโอมานกับบาห์เรน
ซึ่งมีสายการบินตรงเข้าไทยเป็นตลาดคุณภาพสูง ซึ่งมีกระแสตอบรับดีมาก ตลอดงานมีคู่ค้านัดจับคู่ธุรกิจเต็มคูหาประเทศไทยตลอด ส่วนใหญ่มองหาสินค้าท่องเที่ยวเทรนด์ใหม่ตอบโจทย์ความยั่งยืนเป็น Gen S (Sustainable) ทางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ทำสำรวจคนในประเทศเกินกว่า 60 % ยินดีจ่ายแพงขึ้นเพื่อเลือกซื้อการท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ความยั่งยืน ลดภาระสิ่งแวดล้อม และสามารถช่วยชุมชนท่องเที่ยวท้องถิ่นได้
ททท.พร้อมเดินหน้าตอบรับเทรนด์ตลาด Gen S มุ่งใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวที่ยั่งยืนตอนนี้ทั่วโลกหันมาสนใจมากขึ้น จึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนในเมืองไทยเร่งปรับตัวเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมลดละเลิกปริมาณพลาสติก ช่วยกันทำให้เกิดความยั่งยืนอย่างแท้จริงจูงใจให้นักท่องเที่ยวคุณภาพเทรนด์ตลาดใหม่นำเงินมาใช้ในไทยมากขึ้น เพราะตอนนี้นานาประเทศยอมจ่ายค่าตั๋วโดยสารกับเครื่องบินที่หันมาใช้น้ำมันอากาศยานยั่งยืน (SAF :Sustainable Aviation Fuel) แล้ว จึงต้องการสินค้าในแหล่งท่องเที่ยว สถานที่พัก ร้านอาหาร ในระบบอีโค ซิสเต็ม ที่ดีด้วยเช่นกัน
-เรื่องโดย #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ททท. หนุนสมุย จัดเทศกาล Pride ดันไทยติดท็อป LGBTQ 6.64 ล้านล้าน
