นักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวัง รอทิศทางดอกเบี้ยจากถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้ โดยนายพาวเวลมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมว่าด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจ ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองสแตนฟอร์ด รัฐแคลิฟอร์เนียในวันนี้ เวลา 12.10 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือคืนนี้เวลา 23.10 น.ตามเวลาไทย อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นสหรัฐกลับมายืนในแดนบวกหลังดัชนีภาคบริการชะลอตัว
- นักลงทุนรอฟังถ้อยแถลงนายพาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ( เฟด)คืนนี้
- ตลาดกังวลเฟดอาจจะไม่ลดดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือน มิ.ย.ตามที่คาดไว้เดิม
- มีแรงซื้อเข้ามาหลัง ตัวเลขการผลิตภาคบริการชะลอจากเดือนก่อน ทำให้มีโอกาสที่เศรษฐกิจจะไม่ฟื้นร้อนแรงเกินไป
เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 39,269.53 จุด เพิ่มขึ้น 99.29 จุด หรือ 0.25% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 5,227.12 จุด เพิ่มขึ้น 21.31 จุด หรือ 0.41% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 16,332.58 จุดเพิ่มขึ้น 92.13 จุดหรือ 0.57%
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา นายพาวเวลกล่าวแสดงความเห็น ว่า เฟดจะไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่เศรษฐกิจมีการขยายตัวที่แข็งแกร่ง และเงินเฟ้ออยู่สูงกว่าเป้าหมายของเฟด “เราจำเป็นต้องเห็นความคืบหน้ามากขึ้นอีกเกี่ยวกับเงินเฟ้อก่อนที่จะทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากการตัดสินใจเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก ทำให้เราต้องใช้ความระมัดระวังในเรื่องนี้” นายพาวเวลกล่าว
ด้านนายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา กล่าวในวันนี้ว่า เขาคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ และจะเกิดขึ้นในไตรมาส 4/67 โดยมองว่า ประสิทธิภาพการผลิตที่แข็งแกร่ง และการดีดตัวขึ้นของห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งตลาดแรงงานที่ยืดหยุ่น เป็นสิ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวลงช้ากว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ โดย สหรัฐจะมีการขยายตัวที่แข็งแกร่ง ขณะที่อัตราว่างงานต่ำ
อย่างไรก็ตาม มีแรงซื้อหุ้นเข้ามา หลังสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 51.4 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 52.6 ในเดือนก.พ. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 52.7 แต่ดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคบริการของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว
นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 205,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ชะลอตัวจากระดับ 275,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ขณะที่คาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.9%
