วิเคราะห์เกม แดงเดือด คืนนี้ ตัวเก่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – ลิเวอร์พูล เจ็บเพียบ หลังแมนยูเพิ่งบู๊แข้งอย่างหนักกับเชลซี และแพ้ไปแบบกัดกรามแน่น โดนเอาชนะในช่วงนาทีบาป หลังทดเวลาเจ็บ 11 นาที ส่วนลิเวอร์พูลแม้จะเพิ่งชนะเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ดมา 3-1 แต่ก็ประสบปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเช่นกัน
ศึกวันแดงเดือดวันนี้ ทีมปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านพบกับ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ในศึกพรีเมียร์ลีกวันนี้(7 เมษายน 2024) เวลา 21.30 น.ตามเวลาประเทศไทยที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด
เช็คความพร้อมของทั้ง 2 ทีม ก่อนลงฟาดแข้งคืนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การนำของกุนซือ เอริก เทน ฮาก มีผู้เล่นบาดเจ็บและขาดหายไปหลายคนในแนวรับ รวมถึง วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ และ ลิซานโดร มาร์ติเนช ที่ต้องพักอย่างน้อยหนึ่งเดือน ราฟาเอล วาราน และ จอนนี่ อีแวนส์ ถูกเปลี่ยนตัวออกในระหว่างการแข่งขันกับ เชลซี และ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เป็นตัวเลือกเดียวที่เหลืออยู่ร่วมกับ วิลลี่ คัมบวาล่า วัย 19 ปี นอกจากนี้ยังมีความกังวลเกี่ยวกับความฟิตของ กาเซมีโร่ และการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในแดนกลาง
ขณะที่ลิเวอร์พูล ที่มีกุนซือจอมเขี้ยวอย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งเอาชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด มา 3-1 โดย อิบราฮิมา โกนาเต้ และ ไรอัน กราเวนเบิร์ซ กลับมาเป็นตัวจริง อย่างไรก็ตาม โฌเอล มาติป, ติอาโก้ อัลคาตาร่า, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์, อลีสซง เบ็คเกอร์ และ ดีโอโก้ โซต้า ยังคงได้รับบาดเจ็บ แม้ว่านักเตะคนสำคัญเหล่านี้ จะใกล้ที่จะกลับมาฝึกซ้อมเต็มรูปแบบแล้วก็ตาม
วิเคราะห์เกมแดงเดือด
ลิเวอร์พูลเป็นต่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พอสมควร โดยเฉพาะกองหน้าของหงส์แดงยังอยู่ครบทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ และหลุยส์ ดิอาซ ถ้าฟอร์มเข้าฝัก ไม่ว่าจะเป็นซาลาห์หรือนูนเญซ และ หลุยส์ ดิอาซ แผงหลังแมนยูมีระส่ำแน่ และแมทช์นี้เป็นแมทช์สำคัญสำหรับลิเวอร์พูล นอกจากจะเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีที่หงส์แดง ถูกผีแดงเขี่ยตกรอบเอฟเอคัพรอบ 8 ทีม ช่วงต่อเวลา 3-4 ประตู ยังมีผลต่อการก้าวขึ้นไปอยู่หัวตารางแซงอาร์เซนอล ที่แข่งมากกว่า 1 นัด มี 71 คะแนน แต่ถ้าเสมอกัน ลิเวอร์พูลก็จะมีแต้มเท่าอาร์เซนอลที่ 71 คะแนน แต่ลูกได้เสียสู้ไม่ได้ โดยอาร์เซนอลมีผลต่างประตูที่ +51 ประตู ขณะที่ลิเวอร์พูล +42 ประตู
ส่วนทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้นอยู่อันดับ 6 ของตาราง แข่ง 30 นัด มี 48 คะแนน ชนะ 15 ครั้ง เสมอ 3 ครั้ง และแพ้ 12 ครั้ง ผลต่างประตู -1 ผลงานแม้จะเป็นรองลิเวอร์พูล แต่กองเชียร์จะเป็นตัวช่วยให้ผีแดงวิ่งใส่แบบลืมตาย และพิสูจน์มาให้เห็นแล้วจากศึกเอฟเอคัพ เกมนี้จะเป็นเกมที่สนุก ที่ทั้ง 2 ทีมจะบุกเข้าใส่กันแบบไม่ไว้หน้า ผลจึงออกได้ทั้ง 3 หน้า ทั้งชนะ เสมอ หรือแพ้ ขึ้นอยู่กับจังหวะของเกม และความผิดพลาดของใครที่จะมากกว่ากัน
