

“เศรษฐา”ให้สัมภาษณ์ก่อนบินประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น คุยผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางรายงานความคืบหน้า
- ยันรัฐบาลมีเสถียรภาพดี แน่นแฟ้น 314 เสียง
- ขณะนี้ไม่มีเวลามาเล่นการเมือง
วันนี้ (14 ธันวาคม 2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลังให้สัมภาษณ์ก่อนการเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 (บน.6) เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น ว่า ในส่วนของการเสนอให้มีการ work from home นายกรัฐมนตรีคิดว่าทุกส่วนต้องช่วยกัน ต้องร่วมมือกัน คงไม่มีการออกเป็นคำสั่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับบริษัทห้างร้าน แต่จะเป็นลักษณะการขอความร่วมมือให้มีการช่วยเหลือกันทุกวิถีทาง
ส่วนการเชิญผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเข้าพบเป็นเรื่องคดีความต่างๆ มีหลายคดีที่โอนไปที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) จึงได้เชิญมารายงานความคืบหน้าของคดี
นายกรัฐมนตรียังได้ตอบคำถามด้านการเมือง กรณีที่พรรคประชาธิปัตย์จะมาร่วมรัฐบาลว่า ขณะนี้รัฐบาลมีเสถียรภาพดี แน่นแฟ้น 314 เสียง ส่วนการที่สภาล่มนัดแรกนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเองดี ขณะนี้ไม่มีเวลามาเล่นการเมือง ทุกคนพร้อมฟังเสียง เพื่อดูแลความเดือดร้อนของประชาชน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงความห่วงกังวลทั้งเรื่องหนี้ในระบบ หนี้นอกระบบ และ PM 2.5
ส่วนเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่นนั้น การเดินทางครั้งนี้ เป็นการเยือนญี่ปุ่นครั้งแรก จึงมีเรื่องต้องพูดคุยกับหลายภาคส่วน รวมทั้งจะมีการพบปะกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และทานอาหารค่ำ private กับ เจ้าชายมาร์ติน ซึ่งกำลังจะเข้าพิธีอภิเษกสมรส ส่วนการพูดคุยกับนักธุรกิจในส่วนของการพูดคุยกับนักธุรกิจรายใหญ่ หลายราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมยานยนต์ Panasonic และมีอีกหลายราย ซึ่งจะสนับสนุนให้มีการลงทุนเพิ่มโดยเฉพาะอย่างยิ่งยานยนต์อีวี
และในครั้งนี้นักธุรกิจที่จะร่วมเดินทางไปพูดคุยเจรจากับฝ่ายญี่ปุ่น ได้แก่ คุณพรวุฒิ สารสิน ฮอนด้า คุณกลินท์ สารสิน โตโยต้า
อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะมีแสงสว่างที่เป็นความหวังในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจอยู่เสมอก็ยังหนักใจเพราะนายกรัฐมนตรีแบกความหวังปากท้องของพี่น้องประชาชนทั้ง 60 ล้านคน
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ลงทุนสูงสุดในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา จึงจะมีการพูดคุยเพื่อให้การค้าการลงทุนเข้มแข็งมากขึ้น และเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทั้งสองประเทศสะดวกสบายมากขึ้น ทั้งทางการค้าการลงทุน