AOT ระบุระบบเช็กอินสนามบิน กลับมาใช้งานได้ตามปกติแล้ว



AOT แจงระบบเช็กอินสนามบิน กลับมาใช้งานได้ตามปกติ ชี้ไม่พบผู้โดยสารตกค้าง มีเพียงผู้โดยสารบางส่วนเเจ้งขอเปลี่ยนเที่ยวบินและขอรับค่าโดยสารคืน

  • มีเพียงผู้โดยสารบางส่วน
  • เเจ้งขอเปลี่ยนเที่ยวบินและขอรับค่าโดยสารคืน

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) กล่าวว่า จากกรณีระบบ Departure Control System : DCS ของสายการบินบางกลุ่มมีปัญหาเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 19 กรกฎาคม 2567

ทำให้ทุกสายการบินทั่วโลกที่ใช้ระบบดังกล่าวในทุกท่าอากาศยานไม่สามารถทำการเช็กอินผู้โดยสารและสำรองที่นั่งได้นั้น เมื่อเวลา 02.00 น. (วันที่ 20 กรกฎาคม 2567) ระบบได้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ

แต่เมื่อเวลา 09.00 น.ระบบดังกล่าวเกิดขัดข้องอีกครั้ง ก่อนจะกลับมาใช้งานได้ตามปกติตั้งแต่เวลา 11.00 น. ซึ่งปัจจุบันพบว่า แถวคอยของผู้โดยสารและระยะเวลาการเช็กอินกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว

นายกีรติ กล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวพบว่ามีสายการบินที่ได้รับผลกระทบราว 200 เที่ยวบิน แต่ทุกเที่ยวบินสามารถทำการบินได้ มีเพียงบางเที่ยวบินที่ล่าช้า 1-3 ชั่วโมง และมีการยกเลิกเที่ยวบินเพียง 1 เที่ยวบินคือเส้นทาง กรุงเทพ-โอซาก้า วันที่ 20 กรกฎาคม เวลา 10.00 น.

ซึ่งสอดคล้องกับที่สายการบินแจ้งว่าทุกเที่ยวบินไม่มีผู้โดยสารตกค้าง มีเพียงผู้โดยสารบางส่วนเเจ้งขอเปลี่ยนเที่ยวบินและขอรับค่าโดยสารคืน ซึ่งสามารถดำเนินการได้ตามข้อกำหนดของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย

นายกีรติ กล่าวต่อว่า ท่าอากาศยานไทย มีมาตรการรองรับเหตุการณ์ดังกล่าวโดยการรักษาสิทธิ์ของผู้โดยสารในการเปลี่ยนเที่ยวบินหรือขอรับค่าโดยสารคืน รวมถึงสั่งการให้เพิ่มกำลังพลเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ในช่วงระยะเวลา 3 วันนับจากนี้

ในกรณีที่เกิดเหตุระบบขัดข้องซ้ำอีก อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันหยุดติดต่อกันนี้ ท่าอากาศยานไทยขอความร่วมมือผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางล่วงหน้า 3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการพลาดเที่ยวบิน

นายกีรติ กล่าวทิ้งท้ายว่า ภาวะวิกฤติของท่าอากาศยานทั่วโลกในครั้งนี้ ท่าอากาศยานไทยได้รับความร่วมแรงร่วมใจเป็นอย่างดีจากสายการบิน และผู้ประกอบการภายในท่าอากาศยานที่ส่งเจ้าหน้าที่ภาคพื้นเจ้าหน้าที่บริการผู้โดยสาร

และเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำผู้โดยสาร รวมถึงท่าอากาศยานไทยได้จัดอาหาร และเครื่องดื่มให้แก่ผู้โดยสารที่รอคอยเช็กอิน

“ปัญหานี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นครั้งเดียวทั่วโลก กระทบไปทุกส่วน แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นอีก เพราะในส่วนของระบบไอทีได้มีการประชุมติดตาม

และแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดซ้ำ ย้ำว่าปัจจุบันสถานการณ์กลับมาเป็นปกติแล้ว ผู้โดยสารสามารถเดินทางมายังสนามบินได้ในเวลาปกติ และทาง ทอท.ก็จะยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด”

  • แนะตรวจสอบผลกระทบตามคำแนะนำของ CrowdStrike

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้ สืบเนื่องมาจากระบบการให้บริการของ บริษัทคราวด์สไตรก์ (CrowdStrike) ซึ่งเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่มีชื่อเสียงของสหรัฐอเมริกา เกิดข้อผิดพลาด ส่งผลให้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ (Windows) ขัดข้องทั่วโลก

แต่ปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ หรือ สกมช.ได้มีคำแนะนำ สำหรับหน่วยงานรัฐ และเอกชน ที่ต้องการตรวจสอบ หรือได้รับผลกระทบ

โดยเบื้องต้นหากเกิดปัญหารีบูต (Reboot) ซ้ำๆ ให้บูตเข้าระบบเซฟโหมด (Safe Mode) และตามคำแนะนำของ CrowdStrike ที่อยู่ในเวบไซต์ https://www.eye.security/blog/crowdstrike-falcon-blue-screen-issue-updates โดยมีการยืนยันว่า การทำตามขั้นตอนจะไม่ทำให้ความปลอดภัยลดลง และ CrowdStrike จะกลับมาทำงานตามปกติในระบบ

และระบบยังคงได้รับการป้องกัน โดยไม่จำเป็นต้องถอดบริการ CrowdStrike ออกจากเครื่อง ทั้งนี้ทาง CrowdStrike ได้ระบุสาเหตุของปัญหาว่า มาจากการอัปเดตที่ผิดพลาด ไม่มีข้อบ่งชี้ว่าเกิดจากการโจมตีทางไซเบอร์

  • สนามบินเชียงใหม่ระดมเจ้าหน้าที่ดูแล

นาวาอากาศโท รณกร เฉลิมแสนยากร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า จากกรณีระบบปฏิบัติการของ Microsoft ล่มทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อการให้บริการของสายการบิน และสนามบินในหลายประเทศ ตั้งแต่เวลาประมาณ 14.00 น. ของวันที่ 19 ก.ค.67 ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ได้ดำเนินการตรวจสอบระบบของสนามบินอย่างละเอียดแล้ว

พบว่า ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่มีสายการบินที่ประสบปัญหาในการใช้ระบบเช็คอินคือ สายการบินไทยแอร์เอเชีย ซึ่งได้ปรับเปลี่ยนมาใช้ระบบเช็คอินแบบ Manual แทน ส่งผลให้มีผู้โดยสารรอเช็กอินเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้ระดมเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร แจกน้ำดื่ม รวมทั้งได้เปิดเคาน์เตอร์เช็กอินให้กับสายการบินไทยแอร์เอเชียเพิ่มเติม

เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการผู้โดยสาร กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ระบบเช็กอินของสายการบินไทยแอร์เอเชีย ก็ยังไม่สามารถใช้งานได้

ส่งผลให้มีเที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบแล้วจำนวน 16 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินขาเข้าจำนวน 6 เที่ยวบิน และเที่ยวบินขาออกจำนวน 10 เที่ยวบิน ซึ่งระยะเวลาที่ล่าช้าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้

โดยท่าอากาศยานเชียงใหม่ ขออภัยในความไม่สะดวก และขอความร่วมมือผู้โดยสารให้เดินทางมาถึงท่าอากาศยานให้เร็วกว่าปกติ โดยขอให้เผื่อเวลาล่วงหน้าอย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนเวลาเครื่องบินออก

ทั้งนี้ หากผู้โดยสารต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้บริการในด้านต่างๆ และหากมีข้อสงสัยหรือต้องการติดต่อสอบถามเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 5392 2000 ต่อ 2100

  • มีการยกเลิก 5,000 เที่ยวบิน

ส่วนทางด้านสายการบินต่างชาติก็ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้เช่นเดียวกัน อาทิ สื่อของรัฐบาลจีนรายงานในวันนี้ (20 ก.ค.) ว่า สนามบินนานาชาติฮ่องกงได้กลับมาดำเนินงานตามปกติแล้ว หลังจากความผิดพลาดในการอัปเดตซอฟต์แวร์ความปลอดภัยทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ทั่วโลกล่มเป็นเวลาหลายชั่วโมง

ทั้งนี้ สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CCTV) โพสต์บน Weibo โดยอ้างการท่าอากาศยานฮ่องกงว่า ระบบเช็กอินผู้โดยสารของสายการบินต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากระบบล่มทั่วโลกนั้น ได้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว

การท่าอากาศยานเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า สายการบินที่ได้รับผลกระทบได้เปลี่ยนไปใช้การเช็กอินที่ไม่ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ และการดำเนินงานของเที่ยวบินไม่ได้รับผลกระทบ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เที่ยวบินพาณิชย์ทั่วโลกจำนวน 5,000 เที่ยวบินจากทั้งหมด 110,000 เที่ยวบินได้ถูกยกเลิกในวันศุกร์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: วิกฤตจอฟ้า ระบบ IT ล่มทั่วโลก CrowdStrike ของจริง เมื่อเทียบกับ Y2K
: เว็บไซต์ AOT