สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เห็นใจ ชาวบ้าน ซ.ยาสูบถูกเวนคืนที่ นาย สุริยะ ขอคุยกับ ก.คลังรายละเอียด พ.ร.ฏ.เวนคืนที่ดิน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกรณี ชาวบ้านในซอยยาสูบ ด้านหลัง สถานีขนส่งหมอชิตเดิม ซึ่งได้รับผลกระทบ จากพระราชกฤษฎีกา เวนคืนที่ดิน ตามนโยบาย กรมธนารักษ์ ขึ้นป้ายข้อความคัดค้าน การเวนคืนที่ดิน และจะไปยื่นหนังสือต่อ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม เพื่อ สอบถาม และ ให้ยืนยันว่าจะไม่มีการย้ายสถานีขนส่งหมอชิต2 กลับมาที่เดิม
ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายสุริยะ ในประเด็นดังกล่าว โดยเจ้าตัวยืนยันว่า ยังไม่ได้ได้รับหนังสือจากประชาชน แต่เรื่องการเวนคืนที่ดิน เป็นของกรมธนารักษ์ ซึ่งกระทรวงการคลังกำกับดูแล ส่วนกระทรวงคมนาคม ยืนยันว่าจะไม่ย้ายสถานีขนส่งหมอชิต 2 กลับมาที่เดิมแน่นอน แต่หาก กรมธนารักษ์จะนำเอาที่ดินไปทำอย่างอื่นก็ต้องพูดคุยกัน เพราะเรื่องนี้ ชาวบ้านมีความเป็นห่วง ทั้งนี้จะขอไปคุยกับกระทรวงการคลังอีกครั้งถึงรายละเอียด
อ้างอิงข้อมูลจากข่าวที่เกี่ยวข้อง เพิ่มเติม : ต้านขยายเวลาเวนคืนที่ดินหลังหมอชิตเก่า
ทั้งนี้ตามพรฏ.เวนคืนที่ดินฉบับเดิม ซึ่งกำลังจะหมดอายุลงในอีก 2 เดือนข้างหน้า ได้ถูกกรมธนารักษ์ ตั้งเรื่องขึ้นใหม่เพื่อจะขอขยายระยะเวลาออกไป เพื่อก่อสร้างทางยกระดับ ให้รถโดยสารของ บขส. สามารถใช้เส้นทางนี้ วิ่งทะลุจากซอยพหล โยธิน 18/1 ไปออกยังถนนวิภาวดีรังสิต ที่ซอย 5 ระยะทางกว่า 530 เมตรได้
แม้จะมีเสียงคัดค้าน จากชาวบ้านในย่านดังกล่าวว่า ไม่มีเหตุผลความจำเป็น จะต้องย้าย สถานีขนส่งสายเหนือกลับมา โดยจะสร้างความเดือดร้อน ให้การจราจรในย่านนี้เกิดปัญหาอีก และ จากการให้สัมภาษณ์ของ นายสุริยะ ผู้สื่อข่าวได้รับการยืนยันว่า กระทรวงคมนาคม ไม่มีนโยบาย จะย้ายสถานีขนส่งสายเหนือ จากถนนกำแพงเพชรในปัจจุบัน กลับมายังที่ดินผืนเก่าแล้ว
เพราะมีโครงการ จะปรับปรุง สถานีขนส่งสายเหนือ ให้เป็นสถานีขนส่ง ที่ทันสมัย เหมือนสถานีขนส่ง รถโดยสาร ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้ชื่อว่า เป็นสถานีรถโดยสารที่ดีที่สุดของโลก ทั้งยัง มีความสะดวกสบาย สะอาด และปลอดภัยในการเดินทาง เพื่อรองรับ การเดินทางเข้าออก ไปยังภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งนักท่องเที่ยว ที่ต้องการเดินทาง โดยรถบัสของบริษัท ขนส่ง จำกัด(บขส.) ด้วย
นอกจากนี้ เมื่อสอบถามไปยัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ยังได้ทราบว่า กระทรวงการคลัง ก็ไม่คิดจะทำโครงการที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนเช่นกัน
ทั้งนี้ตามความเห็นชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบ ระบุว่า เมื่อไม่มีโครงการ ย้ายสถานีขนส่งสายเหนือ กลับมาที่หมอชิตเก่าแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป ที่จะต้องเวนคืนที่ดิน ให้เอกชนที่จะได้รับประโยชน์ จากการประมูลโครงการนี้ หวนกลับมารังแก และเอาเปรียบประชาชน ด้วยการขยายการเวนคืนที่ดิน หลังหมอชิตอีกต่อไป โดยเฉพาะเมื่อไม่ใช่เป็นการเวนคืน เพื่อประโยชน์ของสาธารณะ
ย้อนเวลากลับไป เมื่อราว 28 ปีก่อน โครงการก่อสร้าง อาคารหมอชิตคอมเพล็กซ์ บนที่ราชพัสดุ ของกรมธนารักษ์ 63 ไร่นี้ จะก่อสร้าง เป็นอาคารขนาดใหญ่ 2 อาคาร หรือ ตึกคู่ สูง 36 ชั้น และ 32 ชั้น และใต้ดินอีก 4 ชั้น ที่มีทั้งห้างสรรพสินค้า ศูนย์ประชุม และ อพาร์ทเมนท์ ควบคู่ไปกับ สถานีขนส่งสายเหนือ และ ที่จอดรถไฟฟ้าของ บีทีเอส รวมพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด ประมาณ 1.5 ล้านตร.เมตร แต่เป็นของสถานี ขนส่งสายเหนือ ซึ่ง บขส.ดูแลอยู่เพียง 120,000 ตร.เมตรเท่านั้น
บริษัท ซันเอสเตท จำกัด ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท บางกอกเทอร์มินอล จำกัด (บีเคที) เป็นผู้เสนอแผนการ ประมูลโครงการนี้ และชนะการประมูล ไปในมูลค่า 27,000 ล้านบาท ส่งผลให้ สถานีขนส่งหมอชิตเดิม ต้องย้ายไปอยู่ ที่ถนนกำแพงเพชร 2 บนที่ดินของรฟท.จนถึงปัจจุบัน
