![Meta พนักงาน Meta กังวลการเลิกตรวจสอบข้อเท็จจริงอาจกระทบความน่าเชื่อ](https://thejournalistclub.com/wp-content/uploads/2025/01/Meta-696x315.jpg)
![](https://thejournalistclub.com/wp-content/uploads/2024/08/Cover-KP_2560x304px.webp)
พนักงานของ Meta ใช้ฟอรัมภายในเมื่อวันอังคารเพื่อแสดงความกังวลต่อการตัดสินใจของบริษัทที่ยุติการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยบุคคลภายนอกในบริการของตนอาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มและบางความคิดเห็นเชิงวิพากษ์ได้ถูกลบหายไปซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่ “โดนัลด์ทรัมป์” จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเพียงสองสัปดาห์
“มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก” ซีอีโอของ Meta ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแพล็ตฟอร์มยอดนิยมอย่าง Facebook และ Instagram ได้ประกาศยุติโครงการตรวจสอบข้อเท็จจริง (fact-checking) โดยระบุว่าโครงการดังกล่าวนำไปสู่การเซ็นเซอร์และเกิดข้อผิดพลาดมากเกินไป เขาเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงออก และวางแผนที่จะย้ายทีมตรวจสอบเนื้อหาจากแคลิฟอร์เนียไปยังเท็กซัส เพื่อลดอคติทางวัฒนธรรม
โจเอล คาปลาน หัวหน้าฝ่ายกิจการระดับโลกคนใหม่ของMeta และอดีตรองหัวหน้าเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวในยุคจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ผ่านโพสต์ใน Workplace ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสื่อสารภายในของบริษัท โดยระบุว่า “เรามองในแง่ดีว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะช่วยให้เรากลับไปยึดมั่นในหลักการพื้นฐานของการแสดงออกอย่างเสรี”
อย่างไรก็ตามพนักงานหลายคนแสดงความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าว โดยบางคนมองว่าการตัดสินใจนี้อาจส่งผลเสียต่อความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม
พนักงานคนหนึ่งเขียนว่า การยกเลิกโปรแกรมตรวจสอบข้อเท็จจริงอาจสื่อว่า “ข้อเท็จจริงไม่มีความสำคัญอีกต่อไป” และอาจถูกตีความว่าMeta สนับสนุนเสรีภาพในการพูดโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบ
ส่วนอีกคนแสดงความคิดเห็นว่า การเลิกตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็น “การละทิ้งความรับผิดชอบในการสร้างแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยและน่าเคารพ” พร้อมแสดงความกังวลว่านโยบายนี้อาจส่งเสริมเนื้อหาที่เหยียดเชื้อชาติหรือเกลียดชังกลุ่มคนบางกลุ่ม
พนักงานบางส่วนยังแสดงความกลัวว่า การเปลี่ยนแปลงนี้จะนำไปสู่การแพร่กระจายข้อมูลที่ผิดพลาดมากขึ้น ซึ่งเป็น “พื้นที่อันตราย” สำหรับแพลตฟอร์ม
ทั้งนี้Meta ได้ตัดสินใจยกเลิกการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากภายนอกและเปลี่ยนมาใช้ระบบที่ผู้ใช้สร้างเนื้อหา เช่น Community Notes ของ X (ชื่อเดิม Twitter)
คาปลาน ยังประกาศว่าบริษัทจะผ่อนคลายข้อจำกัดในหัวข้อบางประเภท แต่จะบังคับใช้อย่างเข้มงวดในกรณีของการละเมิดกฎหมายและเนื้อหารุนแรง
การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง เช่น การเพิ่ม “ดานา ไวท์” ซีอีโอของ UFC และเพื่อนสนิทของทรัมป์ เข้าสู่คณะกรรมการบริหาร รวมถึงการบริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์ให้กับพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์
Metaเคยลดขนาดโครงการตรวจสอบข้อเท็จจริงภายในของบริษัทในปี 2023 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก โครงการดังกล่าวเคยทำงานร่วมกับองค์กรภายนอก เช่น สำนักข่าวเอพี และ รอยเตอร์ส เพื่อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความที่น่าสงสัย
แม้Meta จะประกาศยุติโครงการตรวจสอบข้อเท็จจริงเมื่อวันอังคาร แต่ในความเป็นจริง โครงการดังกล่าวได้หยุดลงตั้งแต่เดือนกันยายน 2024 โดยโฆษกของ เอพี ยืนยันว่าข้อตกลงกับMeta สิ้นสุดลงตั้งแต่ต้นปี
ขณะที่พนักงานหลายคนแสดงความไม่เห็นด้วย บางคนกลับสนับสนุนการตัดสินใจนี้ โดยเชื่อว่า Community Notes มีประสิทธิภาพในการนำเสนอความจริงพื้นฐานมากกว่าโปรแกรมตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ใช้ก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางภายในฟอรัมของMeta โดยมีการตั้งคำถามถึงผลกระทบระยะยาวและความเหมาะสมของการตัดสินใจในครั้งนี้
ที่มา-