นักท่องเที่ยวแห่ไปญี่ปุ่นเพื่อซื้อเสื้อผ้าและกระเป๋าถือสุดหรูในราคาลดพิเศษเนื่องจากค่าเงินเยนอ่อนลง บริษัทสินค้าลักชัวรี่แบรนด์อย่าง LVMH ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Louis Vuitton ปวดศรีษะไม่น้อย
ค่าเงินเยนออนตัว ซึ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบ 38 ปี เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในเดือนกรกฎาค ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้น ก่อให้เกิดกระแสการท่องเที่ยวบูม อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ดึงดูดนักช้อปที่ชาญฉลาดจากเอเชีย และ ที่อื่นๆ
แบรนด์หรูระดับโลกไม่ได้ออกมาแสดงความยินดี เนื่องจากสินค้าของพวกเขา ตั้งแต่รองเท้าผ้าใบ แฟชั่นดีไซเนอร์ ไปจนถึงวิสกี้มีราคาถูกกว่าในญี่ปุ่น เมื่อเทียบเป็นเงินดอลลาร์ ส่งผลให้กำไรลดลง
นักท่องเที่ยวบางส่วน โดยเฉพาะชาวจีน เลือกที่จะซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยในญี่ปุ่นแทนการซื้อในประเทศ ความผันผวนของเงินเยนทำให้บริษัทต่างๆ ไม่สามารถขึ้นราคาสินค้าได้อย่างง่ายดายเพื่อให้สะท้อนถึงค่าเงิน ทำให้บริษัทเหล่านี้มีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำในญี่ปุ่น ขณะที่เงินเยนอ่อนค่า
นายจางเล่ย ดีเจวัย 29 ปี จากมณฑลหูหนานของจีน เดินทางมาเยือน ประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก แต่เขากล่าวว่าเขาอยากไปอีกครั้งแล้ว
“มันถูกกว่า” นายจางกล่าว ขณะที่ถือถุงช้อปปิ้ง Louis Vuitton สองใบและอีกหนึ่งใบจากแบรนด์ชุดกีฬา Onitsuka Tiger เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาในย่านกินซ่า ซึ่งเป็นย่านไฮเอนด์ของโตเกียว
ในบริเวณใกล้เคียง มีคนราว 15 คนต่อแถวเพื่อเข้าไปในบูติก Louis Vuitton โดยใช้พัดตัวเองท่ามกลางความร้อนระอุ
นายจาง กล่าวว่า สิ่งที่เขาซื้อไปก่อนหน้านี้มีทั้งรองเท้าและกระเป๋า เขาตั้งใจจะซื้อนาฬิกาเรือนต่อไปพร้อมกับชี้ไปที่ข้อมือของเขาและพูดว่า “โรเล็กซ์”
กระแสนี้ทำให้ยักษ์ใหญ่ด้านสินค้าหรูหราของฝรั่งเศสอย่าง LVMH ซึ่งยังเป็นเจ้าของ Dior และ Fendi ตกตะลึง
“เราย้ายธุรกิจจากเอเชียมาที่ญี่ปุ่นกันมากจริง ๆ” ฌอง-ฌัก กิโอนี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) กล่าวในการประชุมผลประกอบการล่าสุด โดยระบุว่าธุรกิจของ LVMH ในจีนได้รับผลกระทบจาก “ภาวะเงินฝืด” เนื่องจากลูกค้าไม่จับจ่ายซื้อของที่บ้าน ทำให้อัตรากำไรลดลงอย่างมาก
เขายังกล่าวถึงความยากลำบากที่เกิดจากความผันผวนของค่าเงิน เนื่องจากค่าเงินสามารถย้อนกลับได้ “ค่อนข้างเร็ว” ซึ่งเรื่องนี้ได้รับการบรรเทาลงอย่างมากในสัปดาห์นี้ เนื่องจากค่าเงินเยนพุ่งสูงขึ้นหลังจากที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม
Louis Vuitton Alma BB กระเป๋าถือยอดนิยมมีราคาขาย 14,800 หยวน นาว 72,400 บาท ในประเทศจีน ส่วนในญี่ปุ่นมีราคาขาย 279,400 เยน หรือประมาณ 66,700 บาท โดยเงินเยนจะต้องแข็งค่าขึ้นไปที่ราว 136 เยนต่อดอลลาร์เพื่อให้ราคาถุงเงินเยนของญี่ปุ่นเท่ากับราคาของจีน เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม สกุลเงินอยู่ที่ 149.30 ซึ่งใกล้เคียงกับระดับแข็งค่าที่สุดในรอบ 4 เดือนครึ่ง
นักท่องเที่ยวชาวจีนยังช่วยกระตุ้นยอดขายสุราหรูในญี่ปุ่นอีกด้วย โดย ลูก้า มาร็อตต้า ซึ่งเป็น CFO ของ Remy Cointreau ผู้ผลิตสุรา กล่าวในการรายงานยอดขายไตรมาสแรกของบริษัท ว่า ญี่ปุ่นสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยได้รับแรงหนุน จากการท่องเที่ยว และ ค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลง โดยเสริมว่าย อดขายมีอัตรากำไรที่ลดลง
Richemont กลุ่มธุรกิจหรูหราสัญชาติสวิสซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ Cartier เผยว่ายอดขายในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเกือบ 60 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสแรก โดยมีลูกค้ารายใหญ่เป็นชาวจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และชาวอเมริกัน
“ช้อปปิ้ง ช้อปปิ้ง ช้อปปิ้ง” ฟูมิโกะ อันนิซา นักท่องเที่ยวจากอินโดนีเซีย กล่าวถึงแผนการเดินทางของเธอ
“แบรนด์ระดับไฮเอนด์ราคาถูกที่นี่” เธอกล่าว “เราจะซื้อ Dior แต่เราจะไปที่ Chanel ก่อน”
นอกจากนี้ เธอยังวางแผนที่จะเดินทางไปเยือนเมืองโอซาก้า และ เมืองโกเท็มบะ ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลาง ใกล้กับภูเขาไฟฟูจิ ที่ตั้งของศูนย์การค้าเอาท์เล็ตขนาดใหญ่ที่จำหน่ายแบรนด์ต่าง ๆ ตั้งแต่แบรนด์เสื้อผ้าเอาท์ดอร์ Arc’teryx ไปจนถึงแบรนด์แฟชั่นสัญชาติอิตาลี Zegna
ข้อมูลทางการในเดือนกรกฎาคม ระบุว่า ญี่ปุ่นมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 3.1 ล้านคน ในเดือนมิถุนายน ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดใหม่ ทำให้มีแนวโน้มที่จะแซงหน้าสถิติประจำปีที่เกือบ 32 ล้านคนในปี 2562 ก่อนที่การระบาดใหญ่จะทำให้การเดินทางทั่วโลกต้องหยุดชะงัก
รัฐบาล คาดการณ์ว่า การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว จะสูงถึง 8 ล้านล้านเยนในปี 2567 ซึ่งมองว่าการท่องเที่ยวเป็นแรงกระตุ้นการเติบโตที่หายากในเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากประชากรสูงอายุมายาวนาน
Tourist splurge in Japan creates new headache for luxury brands
จับตา ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ทำสถิติใหม่กำลังแซงหน้าท่องเที่ยวไทย
