มหากาพย์ “หมอชิตคอมเพล็กซ์” ไม่จบ ยังคงตามหลอกหลอนชาวบ้าน หลังสถานีขนส่งหมอชิตเดิม จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ผู้สูงวัยหลายคนร้องไห้ทุกครั้ง เมื่อถูก กรมธนารักษ์ สับขาหลอกทำดีลลับ ขยายเวลา เวนคืนที่ดินหลังหมอชิต ของชาวบ้าน เอื้อประโยชน์เอกชน ร้อนถึงสื่อสูงวัย กับสื่อวัยละอ่อน ต้องเข้าไปเผือก ให้เห็นดำเห็นแดง
“กรมธนารักษ์” กับดีลลับ เวนคืนที่ดินหลังหมอชิต
เรื่องมีอยู่ว่า ผู้คนกว่า 35 ครอบครัว ที่อยู่อาศัยหลังสถานีขนส่งหมอชิตเดิม ส่งตัวแทนมาร้องเรียน กับย่าว่า พวกเขารับไม่ไหวแล้ว กับข่าวที่ออกมา เป็นระลอกๆว่า กรมธนารักษ์ จะเสนอครม.ขยายระยะเวลา ในพรฏ.เวนคืนที่ดิน จำนวน 35 แปลง เพื่อยืนยัน จะก่อสร้างเส้นทางลัด ที่จะทะลุสถานีขนส่งหมอชิต
จากถนนพหลโยธิน 18/1ออก มายังถนนวิภาวดีรังสิต ที่ซอย 5 ระหว่าง อาคารอีสวอเตอร์ กับโรงพยาบาลที่ดูแลความงามโดยเฉพาะของ “เมโกะ” คลินิกความงามชื่อดัง
ปล่อยข่าว เวนคืนที่ดินหลังหมอชิต
ทำผู้เฒ่าผู้แก่ร้องระงม-นอนไม่หลับ
พรฏ.เวนคืนที่ดิน ฉบับนี้ ทำขึ้นสมัยรัฐบาล ชุดที่แล้ว แต่ตลอดช่วงเวลา 7- 8 ปีที่ผ่านมา เจ้าของที่ดิน ทาวน์เฮ้าส์ และ อาคารพาณิชย์ ในย่านนี้ ทำอะไรไม่ได้ ขายก็ไม่ได้ ปรับปรุง หรือ รีโนเวท ใดๆไม่ได้เลย ที่ดินบางแปลง ที่เจ้าของประสงค์จะสร้างโครงการดีๆ ก็สร้างไม่ได้ เพราะติดกับดัก การเวนคืนที่ดิน ที่มักจะมีข่าวออกมาเสมอว่า เดี๋ยวจะเวนคืนที่ดินแล้ว
การปล่อยข่าวแบบนี้ ไม่ได้ทำให้ราคาที่ดิน ในพื้นที่เวนคืนตกต่ำลง เป็นสาละวันเตี้ยลงเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้ผู้คนที่อยู่อาศัยในย่านนี้ เกิดภาวะซึมเศร้า นอนไม่หลับ และต้องใช้ยานอนหลับ เพื่อหยุดความไม่สบายใจของตนลงให้ได้ ผู้เฒ่าผู้แก่หลายรายถึงกับร้องไห้ ทุกครั้งที่มีข่าวว่า บ้านท่านจะถูกเวนคืน
อ้างวัตถุประสงค์เดิมเมื่อ 30 ปีก่อน
ต้องการสร้าง “หมอชิตคอมเพล็กซ์”
เดิมที กรมธนารักษ์ หมายมั่นปั้นมือ ในการเวนคืนที่ดิน ผืนนี้ เพื่อใช้ก่อสร้าง ทางยกระดับที่ทอดยาว ออกจากสถานีขนส่งหมอชิต ซึ่งเคยสุมหัวระดมความคิดกันว่า จะสร้างโครงการ “หมอชิตคอมเพล็กซ์” ขึ้นบนที่ดินผืนเดิม 63 ไร่ ซึ่งก็คือ สถานีขนส่งหมอชิตเดิมนี่แหละ
โครงการนี้ ประกอบไปด้วย อาคารคู่ 2 แท่ง ที่มีความสูง 36 และ 32 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยรวมกัน ราว 1.5 ล้านตร.เมตร แต่จะกันพื้นที่เพียง 120,000 ตร.เมตร ไว้เพื่อย้ายสถานีขนส่งสายเหนือ และอีสาน ของบริษัท ขนส่ง จำกัด(บขส.)ที่ไปสร้างในที่ดิน การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เป็นการชั่วคราว ไว้ที่ถนนกำแพงเพชร 2 กลับมา
ตามแผนเดิม คอมเพล็กซ์แห่งนี้ ต้องรวมเอาพื้นที่ จอดรถไฟฟ้าของบริษัท BTS Group เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ โรงแรม ร้านอาหาร และ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่เข้าไว้ด้วยกัน
มหากาพย์โครงการ 3 ทศวรรษ
การประมูลที่ไม่โปร่งใส-พัวพันการทุจริต
แต่เมื่อกาลเวลา ล่วงเลยนานเกือบ 30 ปี นับจากช่วงเวลาที่ บริษัท ซันเอสเตท จำกัด เสนอแผนพัฒนา พื้นที่แห่งนี้ เป็นหมอชิตคอมเพล็กซ์ แต่ไม่สามารถ ลงหลักปักฐาน เพื่อก่อสร้างได้ เพราะมีข่าวอื้อฉาวว่า การประมูลไม่โปร่งใส พัวพันการทุจริต ซ้ำยังแอบต่อเวลาส่งแบบก่อสร้าง ซึ่งผิดเงื่อนไขถึงขั้นต้องล้มประมูลด้วย โครงการนี้จึงยุติไปในปี 2540
ขณะที่ สถานีขนส่งหมอชิต 2 หรือที่เรียกกันใหม่ว่า สถานีขนส่งสายเหนือ และ ตะวันออกเฉียงเหนือ กำแพงเพชร 2 สามารถใช้ประโยชน์ จากที่ดินของ รฟท. เพื่อขยายพื้นที่ ตามจำนวนผู้โดยสาร ได้อย่างเต็มที่ จนท้ายสุด สถานีขนส่งแห่งนี้ได้กลายเป็นสถานีหลัก ที่ไม่ใช่สถานีชั่วคราว อีกต่อไป และยืนให้บริการผู้โดยสาร มายาวนานถึง 28 ปี
ความสับสน เกิดขึ้นตอนนี้ว่า เหตุใดมหากาพย์หมอชิตคอมเพล็กซ์ จึงยังไม่จบ ทั้งๆที่เวลาผ่านมาเนิ่นนาน มีเรื่องอื้อฉาว แถมข่าวที่กระทบหูสื่อ สูงวัยซ้ำๆกัน ล้วนสับสน คนนั้นพูดอย่าง คนนี้พูดอีกอย่าง จนกระทั่ง มีคนส่งซิกว่า
มีนักการเมืองคุมกระทรวงการคลัง กรมธนารักษ์ และกระทรวงคมนาคม พยายามผลักดัน โครงการนี้ ให้เกิดขึ้นให้จงได้ หลังจาก ที่เคยมีการ เสนอมูลค่าการลงทุนสูงถึง 27,000 ล้านบาท มาถึงวันนี้ มูลค่าการลงทุน และผลตอบแทน ที่จะได้รับคงจะสูงลิ่ว
สัญญาเก่า 30 ปียังอยู่
มีดีลลับๆระหว่างกรมธนารักษ์กับ BKT ที่มา เวนคืนที่ดินหลังหมอชิต
อีกอย่าง สมัยที่ถูกสั่ง ให้ยุติโครงการไป หาได้มีการบอกเลิกสัญญาไม่ รากเหง้าของต้นไม้มีพิษ จึงยังส่งน้ำเลี้ยงต่อไป แม้อธิบดีกรมธนารักษ์คนก่อน จะยืนกรานว่า จะไม่ต่ออายุพรฏ.เวนคืนที่ดิน ผืนนี้แล้ว และจะปล่อยให้พรฏ.ฉบับนี้ หมดอายุลงในเดือน ส.ค.2567 ตามพลวัตของมัน ก็เหอะ
แต่กรมธนารักษ์ยุคนี้ กับ บริษัทที่เทคโอเวอร์ ซันเอสเตท เข้ามาใหม่ที่ชื่อ บางกอกเทอร์มินอล(BKT) กลับมีดีลลับๆกันว่า จะเสนอต่ออายุพรฏ.เวนคืนผืนนี้ออกไปอีก และจะสร้าง“หมอชิตคอมเพล็กซ์” ซึ่งยังมีสัญญาเดิมคาไว้ให้จงได้ ซ้ำยังปฏิเสธไม่รับรู้ว่า กระทรวงคมนาคม ได้ส่งหนังสือด่วนที่สุด มายังกรมธนารักษ์แล้วว่า ไม่ประสงค์จะย้าย สถานีขนส่งสายเหนือ และอีสาน กลับมา
ไม่โปร่งใส แต่ไม่บอกเลิกสัญญา แถมขู่จะฟ้อง “ย่า”
นี่ถ้าไม่แก่จนผมขาว หมดหัว คงถูกเขาหลอก และควานหาความจริงไม่พบ เพราะ ผู้บริหาร กรมธนารักษ์ สับขาหลอก บอกให้เงียบๆไว้ อย่ากระโตกกระตาก ไม่งั้น BKT จะฟ้อง ที่สำคัญคือ เมื่อกระทรวงคมนาคม ไม่ได้ตอบมาให้ชัดว่า จะไม่ย้ายสถานีขนส่งสายเหนือ และอีสาน กลับมา กรมธนารักษ์ ก็ต้องเชื่อ ไว้ก่อนว่าอย่างไรเสีย สถานีขนส่งแห่งนี้ ก็ต้องย้ายกลับมาที่เดิม…ซะงั้น!!
นี่จึงเป็นเหตุผล ที่ต้องต่ออายุพรฏ.เวนคืนที่ดิน ฉบับนี้ออกไป เพราะจำเป็น ต้องสร้างทางเชื่อม ออกไปยังถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อให้รถโดยสาร มีทางออกอีกทาง คือ ทั้งทางด้านถนนพหลโยธิน และ ถนนวิภาวดีรังสิต
ดูเหมือน กรมธนารักษ์ จะคิดถึง แต่ประโยชน์ส่วนตน และ ประโยชน์ของ BKT ซึ่งว่ากันตามจริง สัญญาสัมปทานนี้ น่าจะใกล้หมดอายุ 30 ปีแล้วด้วย แต่ผลประโยชน์ชาวบ้าน กลับไม่ได้คิดถึง แม้แต่น้อยนิด
บ้านเมืองเปลี่ยน ปัจจัยแวดล้อมไม่อำนวย ไม่จำเป็นต้องย้าย สถานีขนส่งกลับ – กทม.ไม่มีเงิน ในฐานะสื่อ ถ้าไม่ช่วยชาวบ้าน พวกเขาคงแพ้ และเป็นเหยื่อ พลพรรคราชการ ที่ไม่สนหัวอกประชาชน เช่นกรณีอื่นๆ จึงได้ขอให้พี่น้องสื่อ ร่วมด้วยช่วยกัน ในการตีแผ่ความจริง เพื่อหยุดการกระทำ ของพวกเขา
ชัชชาติ-สุริยะ ยัน ไม่มีความต้องการ เวนคืนที่ดินหลังหมอชิต
ผลจากการนี้ ทำให้กระทรวงคมนาคมโดย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการ ให้คำตอบชัดเจนว่า จะไม่ย้ายสถานีขนส่ง เจ้าปัญหานี้ กลับมายังหมอชิต อีกแน่นอน ในขณะที่กทม.โดยผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ประกาศว่า กทม. ไม่มีเงินสร้างทางเชื่อม ที่กำหนดไว้ใน พรฏ.เวนคืนว่า กทม.จะต้องเป็นผู้สร้างให้
เหตุผลสุดท้าย ที่สำคัญเหนืออื่นใด คือ บัดนี้ ที่ดินของ สถานีขนส่งหมอชิตเดิม ได้กลายเป็นที่จอดรถยนต์ นับร้อยนับพันคันของผู้ประสงค์ จะเดินทางเข้าเมือง โดยรถไฟฟ้าของ BTS และ รถไฟใต้ดิน ของ รฟม.ซึ่งสามารถเชื่อมต่อ ไปยังรถไฟฟ้าสายอื่นๆได้อีก ถ้ายังยืนยัน จะพัฒนาที่ดินผืนนี้อีก ก็ต้องสำรวจ ปัจจัยแวดล้อมให้ดี
เพราะการจราจร บนถนนพหลโยธิน ติดขัด และคับคั่ง ไปด้วยการเดินทาง ของผู้คนจำนวนมาก ที่จำเป็นต้องใช้เส้นทาง ซึ่งตรงไปสู่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และความต้อง การเดินทางไปยัง สวนจตุจักร กับ ตลาดนัด อตก.
สิ่งเดียว ที่ทำได้ ในฐานะเป็นที่ราชพัสดุ คือ สร้างที่จอดรถ เพื่อประชาชนจำนวนมาก ต้องการเดินทาง เข้าไปทำงาน และธุระต่างๆ จะได้ไม่ต้อง เอารถเข้าเมือง คนไทย ก็จะอารมณ์ดี หน้าใส เพราะอากาศจะสะอาด เป็นไปตาม เป้าหมายรัฐบาล
พูดง่าย แต่ก็ไม่น่า จะทำยาก แค่คิดถึง ประชาชนเป็นหลักเท่านั้น
คุณย่าขาซิ่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ต้านขยายเวลาเวนคืนที่ดินหลังหมอชิตเก่า
