นางคริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยถึงนโยบาย Zero-Covid ของจีนว่า เริ่มเป็นภาระต่อระบบเศรษฐกิจมากขึ้นทุกที เนื่องจากการส่งผลกระทบแง่ลบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั้งในประเทศจีนและทั่วโลก
ทั้งนี้นโยบาย Zero-Covid ของจีนหมายถึงการใช้มาตรการต่าง ๆ เช่น การล็อกดาวน์ การตรวจหาเชื้อจำนวนมากและการบังคับผู้เดินทางเข้าพื้นที่ให้กักตัว เพื่อรักษายอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ให้เป็นศูนย์
นางจอร์เจียวา เปิดเผยกับสำนักข่าว CNBC ว่า แผนการควบคุมโควิด-19 ให้อยู่แต่ในวงจำกัดของจีนนั้นประสบความสำเร็จดีในช่วงแรกๆ แต่ตอนนี้ก็อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงมากกว่าประโยชน์
ทั้งนี้ยอมรับว่า ที่ผ่านมานโยบาย Zero-Covid ช่วยให้จีนสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้จริง แต่การอุบัติขึ้นของสายพันธุ์โอมิครอนทำให้ควบคุมการแพร่ระบาดได้ยากกว่าเดิม
“มาตรการจำกัดที่บังคับใช้อยู่ของจีน ถือเป็นภาระต่อระบบเศรษฐกิจ ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงทั้งสำหรับจีนและทั่วโลกเนื่องจากจีนเป็นแหล่งซัพพลายที่สำคัญ” นางจอร์เจียวา กล่าว
ทั้งนี้หลังจากโลกต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาแล้วถึง 2 ปี นางจอร์เจียวา ระบุว่า ขณะนี้ประเทศต่างๆ ต้องกลับมาพิจารณาหาแนวทางที่ดีที่สุดในการรับมือกับเชื้อไวรัส สำหรับจีน มองว่าจีนอาจไม่สามารถสกัดการแพร่ระบาดระลอกล่าสุดได้อีกต่อไป โดยไม่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจ
“บทเรียนที่ได้จากสายพันธุ์โอมิครอนก็คือ หากต้องเผชิญกับโควิด-19 ที่แพร่กระจายได้ง่ายเช่นนี้ การควบคุมการแพร่ระบาดโดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ก็จะเป็นเรื่องยากขึ้นมาก” นางจอร์เจียวา กล่าว
