IATA เผยผู้โดยสารเครื่องบินเสี่ยงติด “โอมิครอน” เพิ่ม 2-3 เท่า

  • ชั้นประหยัดคนหนาแน่นมีโอกาสเสี่ยงติดมากกว่าชั้นธุรกิจ
  • แนะให้สลับกันรับประทานอาหาร-ป้องกันตัวเองเข้มข้น
  • แต่ติดเชื้อในเครื่องบินยังน้อยกว่าในบาร์-ฟิตเนส

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายเดวิด พาวเวล แพทย์และที่ปรึกษาด้านการแพทย์ สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) เผย ผู้โดยสารเครื่องบินมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าที่จะติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนระหว่างการเดินทาง

นายพาวเวล กล่าวว่า เที่ยวบินชั้นธุรกิจมีแนวโน้มปลอดภัยมากกว่าชั้นประหยัด ซึ่งมีผู้โดยสารจำนวนมาก กว่า และควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกัน หรือสัมผัสบนพื้นผิวที่มีการจับต้องบ่อย และหากต้องรับประทานอาหาร ควรสลับเวลารับประทานถ้านั่งในแถวเดียวกัน เพื่อให้คนอื่นยังสวมหน้ากากอนามัยอยู่ ในขณะที่อีกคนถอดหน้ากากรับประทานอาหาร ส่วนเด็กเล็ก มีความเสี่ยงที่จะป่วยหนักจากการติดเชื้อระหว่างเดินทางน้อยกว่าผู้ใหญ่

อย่างไรก็ดี แม้การโดยสารเครื่องบินมีความเสี่ยง แต่การอยู่ในสถานที่ที่มีคนหนาแน่นมาก เช่น ศูนย์การค้าต่างๆ ยังคงมีความเสี่ยงสูงกว่ามาก เพราะครื่องบินสมัยใหม่ มีระบบกรองอากาศเกรดเดียวกับในโรงพยาบาล

นายพาวเวล กล่าวต่อว่า ผู้โดยสารยังคงต้องรักษามาตรการควบคุมโรค เช่น สวมหน้ากากอนามัยทางการแพทย์อย่างเคร่งครัดบนเครื่องบิน ซึ่งหน้ากากทางการแพทย์มีประสิทธิภาพดีกว่าหน้ากากผ้า 10-20% หมั่นล้างมือ และการรักษาระยะห่างจากผู้โดยสารคนอื่น โดยสิ่งที่ป้องกันการติดเชื้อได้ดีที่สุดคือ การฉีดวัคซีนให้ครบทุกเข็ม รวมถึงการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์

สำหรับผู้ที่วิตกกังวลว่าควรงดการนั่งเครื่องบินหรือไม่นั้น นายพาวเวล กล่าวว่า แม้เครื่องบินจะเป็นสถานที่ปิด แต่ก็มีระบบระบายอากาศที่ไหลเวียนได้ดีมาก ดังนั้น การนั่งเครื่องบินยังถือว่ามีความเสี่ยงต่ำกว่าการนั่งในบาร์ ที่มีคนหนาแน่น หรือในฟิตเนส ที่มีคนตะโกนออกเสียง และมีเหงื่อออกอยู่ตลอดเวลา

ขณะที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ไม่จำเป็นต้องสวมชุดป้องกันเต็มรูปแบบ ทั้งชุด PPE รวมถึงเฟซชิ เพราะจากสถิติที่พบการติดเชื้อจากผู้โดยสารไปยังพนักงานบนเครื่องบินน้อน ส่วนใหญ่จะเป็นการติดเชื้อระหว่างกลุ่มผู้โดยสาร หรือกลุ่มพนักงานบนเครื่องบินด้วยกันเอง เพียงแต่ต้องเพิ่มความรัดกุมในการรักษามาตรการสกัดโรค และติดตามข้อมูลใหม่ๆ เกี่ยวกับเชื้อไวรัสโอมิครอน