IATA ถก ICAO พลิกโฉมอุตสาหกรรมบินใหม่ 3 วาระโลก โหมลดปล่อยคาร์บอน-ผุดโปรเจกต์ชดเชย-อุดช่องโหว่โควิด

  • IATA ถกที่ประชุมสมัชชา ICAO ครั้งที่ 41 พลิกโฉมอุตสาหกรรมการบินสู่ยุคใหม่ด่วน 3 วาระโลก
  • ปลุกแอร์ไลน์ลดคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี’93
  • สร้างโปรเจกต์ชดเชยการปล่อยคาร์บอน
  • นำบทเรียนโควิดอุดช่องโหว่ปัญหาเศรษฐกิจสังคม

สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA :International Air Transport Association) รายงานว่า ได้เสนอให้ที่ประชุม สมัชชาองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO : International Civil Aviation Organization) ครั้งที่ 41 แก้ไขปัญหาอุตสาหกรรมการบินในประเด็นสำคัญเร่งด่วน  3 เรื่อง ได้แก่

เรื่องที่ 1 จัดทำเป้าหมายระยะยาว (LTAG) เรื่องลดคาร์บอนของการบินระหว่างประเทศให้สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของอุตสาหกรรมการบินที่จะบรรลุการปล่อย CO2 สุทธิเป็นศูนย์ให้ได้ภายในปี 2593

เรื่องที่ 2 เสริมความแข็งแกร่งโครงการชดเชยคาร์บอนและการลดคาร์บอนการบินระหว่างประเทศ (CORSIA) เพื่อเป็นมาตรการทางเศรษฐกิจเดียวที่รัฐบาลใช้เพื่อจัดการคาร์บอนทางการบินอย่างมีประสิทธิภาพ

เรื่องที่ 3 นำบทเรียนที่ได้รับจากสถานการณ์โควิด-19ได้ทำลายการเชื่อมต่อทั่วโลกทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมซึ่งสร้างบาดแผลใหญ่ให้ทั่วโลกเนื่องจากรัฐบาลทุกประเทศจำเป็นจะต้องมีมาตรการควบคุมการแพร่กระจายของ COVID-19 อย่างต่อเนื่องมานานหลายปี

นายวิลลี่ วอลช์ ผู้อำนวยการทั่วไปสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศหรือ IATA กล่าวว่า ระหว่างการประชุมICAO ครั้งที่ 41 ปี 2565 สมาชิกคาดหวังจากเวทีนี้จะยกระดับอุตสาหกรรมการบินทะยานสู่เป้าหมายจริงได้จากความท้าทายที่ทุกาคส่วนต้องเผชิญอยู่ขณะนี้ เช่น รัฐบาลทุกประเทศจะต้องเรียนรู้บทเรียนเกี่ยวกับโควิด-19 แล้วร่วมมือกันป้องกันไม่ให้การระบาดใหญ่ครั้งต่อไปส่งผลจนส่งผลให้ต้องปิดพรมแดนการเชื่อมต่อของทั่วโลก อันนำมาซึ่งความยากลำบากทางสังคมและเศรษฐกิจ 

รวมทั้งยังต้องการให้รัฐบาลมุ่งมั่นสนับสนุนอุตสาหกรรมการบินหันมาช่วยกันทำโครงการลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ให้ได้ภายในปี 2593 ด้วยความมุ่งมั่นของตนเองควบคู่กับการประกาศใช้มาตรการด้านนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการลดคาร์บอนอย่างเต็มที่ เรื่อยไปจนถึงการตัดสินใจที่ถูกต้องของรัฐบาลแต่ละประเทศสามารถเร่งการฟื้นตัวจากโควิด-19 ได้ กระทั่งปัจจุบันต้องเดินหน้าต่อด้วยการเสริมสร้างรากฐานการขจัดคาร์บอนทางการบินให้สัมฤทธิ์ผลเร็วที่สุด

ทั้งนี้ในวาระการประชุมสมัชชาองค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ICAO ครั้งที่ 41 ทาง IATA ได้ส่งได้ส่งหรือสนับสนุนเอกสารเข้าที่ประชุมพิจารณามากกว่า 20 ฉบับ ซึ่งครอบคลุมนโยบายหลักและด้านกฎระเบียบ รวมถึงประเด็นดังนี้

1.“ความยั่งยืน นำเสนอให้สายการบินมุ่งมั่นจะลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 มุ่งมุ่นสนับสนุนให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมทาง IATA ขอให้รัฐบาลใช้ LTAG พยายามสร้างเท่าเทียมกันซึ่งสามารถชี้เป้ากำหนดนโยบายอย่างสอดคล้องกันทั่วโลก 

IATA ยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับ CORSIA เป็นมาตรการทางเศรษฐกิจระดับโลกเดียวในการจัดการการปล่อยมลพิษระหว่างประเทศของการบิน ซึ่งหมายถึงต้องมีรูปแบบปฏิบัติทางภาษีใหม่ที่จะไม่หลีกเลี่ยงการจ่าย หรือมีแผนกำหนด “ราคาการปล่อยมลพิษ” รวมถึงขจัดมาตรการซ้ำซ้อนซึ่งพัฒนาขึ้นเมื่อช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาให้ชัดเจน

เนื่องจากเชื้อเพลิงการบินที่จะนำไปความยั่งยืน (SAF) เป็นหัวใจสำคัญในการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานอุตสาหกรรมการบิน คาดภายในปี 2593 จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้ 65% ดังนั้น IATA จึงเรียกร้องให้รัฐบาลต่างๆ ดำเนินมาตรการเชิงนโยบายที่ประสานกันเพื่อสร้างแรงจูงใจในการผลิต และเรียกร้องให้จัดตั้งระบบ “จองและอ้างสิทธิ์” ระดับโลก เพื่อให้สายการบินสามารถใช้เชื้อเพลิงการบินหรือ SAF ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 

2.บทเรียนจาก COVID-19 : IATA เรียกร้องให้รัฐบาลเตรียมพร้อมรับมือภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพในอนาคตให้ดีขึ้นและเพื่อหลีกเลี่ยงการกระจายตัวของเชื้อ COVID-19 กรณีที่มาตรการโควิด-19 ยังคงอยู่ จะต้องทบทวนมาตรการเหล่านี้โดยพิจารณาจากบทเรียนที่ได้รับช่วงโควิด-19 และประเมินตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดระดับโลก

ความท้าทายคือการทบทวนที่องค์กรการบินระหว่างประเทศหรือ ICAO ควรมีคำแนะนำสนับสนุนแผนฟื้นฟูการเชื่อมต่อทั่วโลก โดยอาศัยความรู้ทางวิทยาศาสตร์เชิงลึกและความเข้าใจที่สร้างขึ้นช่วงการระบาดใหญ่ COVID-19 เรื่องดังกล่าวนี้ควรเปิดใช้งานกรอบการเตรียมพร้อมรับมือการระบาดใหญ่ที่หลีกเลี่ยงการปิดชายแดนด้วยแนวทางที่มีมาตรการการจัดการความเสี่ยงอย่างเป็นสัดส่วนและโปร่งใสมากขึ้น โดยใช้มาตรฐานทั่วไปเรื่องข้อมูลประจำตัวด้านสุขภาพ และการสื่อสารที่ดีขึ้น รวมถึงแพลตฟอร์มทั่วไปเพื่อแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการที่รัฐบาลดำเนินการ ร่วมมือและการเจรจาที่เข้มแข็งขึ้นในระดับโลก ระดับภูมิภาค และระดับประเทศ  แล้ว IATA ได้เรียกร้องให้ผู้นำ ICAO และองค์การอนามัยโลก (WHO) นำบทบาท CAPSCA ทำเฟรมเวิร์กตามโปรแกรมการทำงานต่อเนื่องติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างชุดเครื่องมือรับมือวิกฤตเปิดใช้งานได้

3.บุคลากรและความสามารถ ทาง IATA ขอให้ดำเนินการในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับนักเดินทางและผู้ที่ทำงานในอุตสาหกรรมการขนส่งทางอากาศ โดยเฉพาะ

เรื่องแรก -รัฐควรยอมรับกรอบการทำงานระดับโลกเรื่องวิธีการขนส่งทางอากาศต้องดำเนินการตามพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิของคนพิการ ความสอดคล้องของกฎระเบียบจะช่วยให้สายการบินและสนามบินสามารถระบุอุปสรรคเข้าถึงและตอบสนองความต้องการของผู้เดินทางที่ทุพพลภาพด้วยบริการและกระบวนการคาดการณ์ได้

เรื่องที่สอง- การให้สัตยาบันสากลของพิธีสารมอนทรีออล 2014 (MP 14) เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้สิ่งจูงใจที่มีประสิทธิภาพสำหรับพฤติกรรมเกเรทั่วโลก ในขณะที่ MP14 มีผลบังคับใช้ มีเพียง 38 รัฐเท่านั้นที่ให้สัตยาบัน

เรื่องที่สาม -จำเป็นต้องตรวจสอบข้อจำกัดปัจจุบันเกี่ยวกับการจำกัดอายุสูงสุดของนักบิน เรื่องนี้ควรพิจารณาเทคโนโลยีใหม่และวิทยาศาสตร์ที่เกิดขึ้นใหม่ การปรับอุปสรรคการจ้างงานจะช่วยให้มั่นใจว่านักบินที่มีความสามารถจำเป็นต่อการสนับสนุนการเติบโตในอนาคตต่อไป โดย IATA ได้สนับสนุนให้ริเริ่มในระดับโลกเพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สมดุลทางเพศในอุตสาหกรรมการบิน และสนับสนุนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้านการบินทั้งหมดเข้าร่วมโครงการ 25 ก่อนปี 2568

4.ความปลอดภัย ความมั่นคง และการปฏิบัติการ ไฮไลท์ในพื้นที่ต่าง ๆ คือ 1.IATA สนับสนุนพันธกรณีของรัฐในการพิจารณาปัญหาด้านความปลอดภัยการบินและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเมื่อเปิดใช้งานบริการใหม่ ๆ เช่น5G 2.IATAขอให้รัฐสนับสนุนแนวปฏิบัติการตั้งค่ามาตรฐานให้เร็วขึ้นแทนที่ ICAO จะทำตามแนวทางแบบค่อยเป็นค่อยไปและแนวทางปฏิบัติที่แนะนำ (SARPs) ซึ่งจะช่วยให้ SARP ก้าวทันการพัฒนาเทคโนโลยี และหลีกเลี่ยงความสับสนที่เกิดขึ้นเมื่อมีความล่าช้าเพราะความซับซ้อนของการทดสอบ การรับรอง และความท้าทายในห่วงโซ่อุปทานด้วย

5.มาตรฐานสากลและการดำเนินการซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมการขนส่งทางอากาศด้านปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และยั่งยืน การประชุม ICAO ครั้งนี้ มีโอกาสมหาศาลเรื่องพัฒนาการลดการปล่อยคาร์บอนของการบินเตรียมอุตสาหกรรมรับมือการระบาดใหญ่ครั้งต่อไป พัฒนาความหลากหลายทางเพศ ปรับปรุงการเดินทางทางอากาศที่เข้าถึงได้ และเปิดใช้งานการตั้งค่ามาตรฐานเพื่อให้ทันกับเทคโนโลยีในอนาคตด้วย

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza,www.facebook.com/penroongyaisamsaen