HSBC ปลดพนักงาน 35,000 คนทั่วโลกใน 3 ปี

  • ขายทรัพย์สินทิ้งกว่า 3 ล้านล้านบาท
  • ตั้งเป้าพนักงานเหลือ 200,000 คนใน 3 ปี

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่านายโนเอล ควินน์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอธนาคารเอชเอสบีซี ซึ่งเป็นธนาคารยักษ์ใหญ่ที่สุดในยุโรป ประกาศแผนลดต้นทุนธนาคารครั้งใหญ่ สั่งปลดพนักงาน 35,000 คนใน 3 ปีจากนี้ไป และขายสินทรัพย์ของธนาคารเป็นมูลค่ากว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.15 ล้านล้านบาท เพื่อลดต้นทุนและปรับรูปแบบธุรกิจธนาคารใหม่ทั้งหมด สำหรับการปลดพนักงานในครั้งนี้ จะทำให้เหลือพนักงานประมาณ 200,000 คนภายใน 3 ปีหน้า

ซึ่งจากผลประกอบการของธนาคารที่ลดลงต่อเนื่องในปี 2562 ผลกำไรก่อนจะหักภาษีลดลงเหลือ 13,350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 420,525 ล้านบาท จากผลกำไรเดียวกันในปี 2561 ที่มีอยู่ถึง 19,890 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า626,535 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในเอเชียชะลอตัวลงหนักจากสงครามการค้า ภาวะเศรษฐกิจในยุโรปที่ซบเซาจากเศรษฐกิจโลกรวมถึงปัจจัยอังกฤษออกจากอียู และโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ฉุดเศรษฐกิจจีนและทั่วโลกในขณะนี้

กระทบต่อธุรกิจของลูกค้าธนาคารทั้งในจีนแผ่นดินใหญ่และซัพพลายเออร์ในแถบเอเชีย ทั้งนี้ ธนาคารเอชเอสบีซี มีรายได้ของธนาคารมากถึง 90% มาจากเอเชียเป็นหลัก