สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ร่วมใจลดราคาสินค้า และ เปิดพื้นที่ให้ค้าปลีก ที่ได้รับผลกระทบ มาขายสินค้า ตั้งแต่ตุลาคมเป็นต้นไป และ เรียกร้องให้รัฐเยียาวยาผู้ค้าปลีก ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเดือนสิงหาคมเริ่มฟื้น เชื่อหากรัฐอัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มจะฟื้นตัวต่อเนื่อง
นายฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ รองประธาน สมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วม ในปัจจุบัน สร้างผลกระทบต่อภาคค้าปลีกไทย มากกว่า 1,000 ล้านบาท ทางสมาคมฯ จึงได้ผนึกกำลังผู้ประกอบการค้าปลีกทั่วไทย ร่วมกันลดราคา เป็นกรณีพิเศษ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน และ จัดโซนพื้นที่สำหรับจำหน่ายสินค้าให้ผู้ประกอบการ ที่ได้รับความเสียหาย จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง
ทั้งนี้ กลุ่มสินค้าประกอบด้วย กลุ่ม วัสดุก่อสร้าง เช่น ไทวัสดุ ลดราคาสินค้า ในกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมแซม – ตกแต่งบ้าน และ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ร่วมรายการ ลดสูงสุด 60% , ดูโฮม ลดราคาสินค้า ในกลุ่มซ่อมแซม อาทิ อุปกรณ์ไฟฟ้า , สีและเคมีภัณฑ์ , อุปกรณ์สุขภัณฑ์ , เครื่องใช้ไฟฟ้า และ ของใช้ในบ้าน ลดสูงสุด 60% , โฮมโปร มอบเงินช่วยเหลือผ่านโฮมโปร วอลเล็ต มูลค่า 300 บาท ให้กับ สมาชิกโฮมการ์ด รวมทั้ง การนำอุปกรณ์ที่ชำรุดเสียหาย จากน้ำท่วมมาแลกเปลี่ยน เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ เพื่อรับส่วนลดรวมสูงสุดกว่า 10,000 บาท เป็นต้น
กลุ่มอุปโภคบริโภค เช่น ท็อปส์ ลดราคาสินค้าค้าอุปโภคบริโภคที่ จำเป็น สำหรับชีวิตประจำวัน กว่า 7,000 รายการ และ ยังล็อคราคาสินค้าจำเป็น อีกกว่า 400 รายการ , บิ๊กซี ลดราคาสินค้าในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค อาหารสด ของใช้ในครัวเรือน ทุกรายการ และ ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์จั ดสินค้าลดราคาออกหน่วยธงฟ้าบริการประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย , แม็คโคร ให้การสนับสนุนการลดราคาสินค้าจำเป็น กว่า 4,000 รายการ , โลตัส ลดราคาสินค้าในกลุ่มอุปโภคบริโภคจำเป็น ยารักษาโรค กว่า 5,000 รายการ
นอกจากนี้ สมาชิกในสมาคมผู้ค้าปลีกไทย อาทิ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล , ศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ , เดอะมอลล์ , สยามพิวรรธน์ , บิ๊กซี , โลตัส ฯลฯ ยังร่วม มอบพื้นที่จำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเป็นการชั่วคราว ในระหว่างรอการฟื้นฟู เพื่อให้เอสเอ็มอี ได้มีเวลาเตรียมความพร้อมในการกลับไปดำเนินธุรกิจอีกครั้งในช่วง ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป
นอกจากนี้สมาชิกของสมาคม ฯ ยังร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ นำทีมพนักงานอาสา ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ เพื่อร่วมช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยอีกด้วย เช่น เครือกลุ่มเซ็นทรัล , เครือซีพี , เดอะมอลล์กรุ๊ป เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ขอเสนอให้ภาครัฐ เร่งออกมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการค้าปลีก ที่ได้รับผลกระทบ จากภัยน้ำท่วม อาทิ การพักชำระหนี้ทั้งเงินต้น และดอกเบี้ย การยกเว้นภาษีนิติบุคคล การขยายเวลาการยื่นภาษี การลดอัตราการส่งเงินสมทบประกันสังคม ของนายจ้าง และ ลดอัตราค่าน้ำค่าไฟ เป็นต้น รวมทั้งให้ความสำคัญกับระบบบริหารจัดการน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัย ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นอีก ในอนาคต
แม้ว่า ที่ผ่านมา กำลังซื้อของผู้บริโภคจะยังไม่คึกคัก เท่าที่ควร จากปัจจัยหลากหลายรอบด้าน อาทิ ค่าครองชีพที่ยังคงสูง หนี้ครัวเรือน ค่าพลังงาน ความไม่แน่นอนของมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายของภาครัฐ ภัยธรรมชาติ และ อื่น ๆ
แต่อย่างไรก็ตาม ภาพรวมดัชนีความเชื่อมั่น ของผู้ประกอบการค้าปลีก ในเดือนสิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ได้ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี ด้วยเหตุนี้หากรัฐบาลเร่งรัด ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม และ ต่อเนื่อง มุ่งเป้าตรงจุด ก็จะส่งผลให้เกิดสัญญาณฟื้นตัวเป็นบวกอย่างต่อเนื่อง และ ทั่วถึงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการค้าปลีก ยังมีความหวังว่าในอีก 3 เดือนข้างหน้าซึ่งเป็นช่วง High Season ของการท่องเที่ยว จะช่วยกระตุ้นเม็ดเงิน จับจ่ายภายในประเทศ ให้กระเตื้องขึ้นได้เป็นอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
สมาคมผู้ค้าปลีกไทย พร้อมร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่งเดียว กับทุกภาคส่วนในการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับคนไทย และ ผู้ประกอบการค้าปลีกให้สามารถก้าวผ่านอุทกภัยครั้งใหญ่นี้ไปด้วยกันอย่างเข็มแข็ง
https://www.thaipbs.or.th/news/content/344319
https://thejournalistclub.com/economics-news-322/