“อนุทิน” รมว.มหาดไทย และ “วราวุธ” นำคณะลงพื้นที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ติดตามการฟื้นฟูและช่วยเหลือชาวบ้านหลังอุทกภัย ย้ำรัฐบาลไม่ทอดทิ้ง พร้อมระดมกำลังจากทุกภาคส่วนช่วยเหลือให้เข้าสู่ภาวะปกติเร็วที่สุด
- ย้ำรัฐบาลไม่ทอดทิ้ง
- ระดมกำลังจากทุกภาคส่วน
- ช่วยเหลือให้เข้าสู่ภาวะปกติเร็วที่สุด
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย พร้อมด้วย นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย
พร้อมผู้บริหารหน่วยงาน และ รัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 67 เพื่อติดตามการให้ความช่วยเหลือด้านการฟื้นฟูในพื้นที่หลังน้ำลด พร้อมให้กำลังใจประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่
นายอนุทิน พร้อมคณะได้เดินทางไปยังเทศบาลตำบลแม่อาย จ.เชียงใหม่ เพื่อร่วมกิจกรรม Big Cleaning ชุมชนและบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ซึ่งเป็นไปตามแนวทางที่ นายอนุทิน ได้กำชับหน่วยงานของกระทรวงมหาดไทยให้ระดมกำลังทั้งเครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์ กำลังคนเข้าช่วยเหลือประชาชน
โดยเฉพาะในช่วงฟื้นฟูหลังน้ำลด ซึ่งขณะนี้หน่วยงานของกระทรวงมหาดไทยได้เข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ต่อเนื่อง เช่น จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมการปกครอง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค
จากนั้นคณะเดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนผู้ประสบภัย ตลอดจนคณะอาจารย์และนักศึกษาจากวิทยาลัยเทคนิคและวิทยาลัยการอาชีพในจังหวัดเชียงใหม่ ที่มาเปิดศูนย์บริการซ่อมจักรยานยนต์ เครื่องกลการเกษตร เครื่องใช้ไฟฟ้า (Fix it Center) ฟรีแก่ประชาชนผู้ประสบภัย ณ วัดใหม่หมอกจ๋าม ต.แม่อาย อ.แม่อาย ซึ่งในจุดนี้นายอนุทิน พร้อมคณะได้กล่าวทักทายและให้กำลังใจประชาชน
ทั้งนี้ นายอนุทินกล่าวว่า ตนและรัฐมนตรีสองท่าน รวมถึงผู้บริหารของกระทรวงมหาดไทย กระทรวง พม. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค ได้ลงพื้นที่เยี่ยมประชาชนด้วยความห่วงใย ที่ผ่านมาได้ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิดผ่านการรายงานของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
ซึ่งท่านผู้ว่าฯ ได้นอนที่วัดท่าตอนมาหลายคืน อยู่ในพื้นที่เพื่อให้มั่นใจว่าทางการไม่ทิ้งประชาชน โดยตอนนี้สถานการณ์ดีขึ้นเรื่อยๆ ความรุนแรงลดลงแล้ว หลังจากนี้ก็คงเป็นขั้นตอนสำคัญคือช่วยเยียวยาช่วยซ่อมแซมความเสียหาย
สำหรับความช่วยเหลือ รัฐมนตรีทั้ง 3 คนที่ลงพื้นที่จะกลับไปรายงานนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นลูกหลานชาวเชียงใหม่อยู่แล้ว จะได้มีการพิจารณนำความช่วยเหลือมาให้ประชาชนต่อไป แต่ตอนนี้สิ่งที่ได้อนุมัติไปแล้วตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาคือการจ่ายเงินช่วยเหลือรายครัวเรือน
และจะมีส่วนการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าที่จะยกเว้นไม่เก็บค่าไฟในเดือน ก.ย. และส่วนลด 30% สำหรับเดือน ต.ค.ในพื้นที่ประสบอุทกภัย และยังจะมีเรื่องของความช่วยเหลืองบซ่อมแซมบ้านเรือนต่างๆ ซึ่งจะเป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดที่จะทำเรื่องเสนอต่อไป
ทางด้าน น.ส.ธีรรัตน์กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาก็ได้ไปหลายที่ ได้ให้กำลังใจพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ถึงปัญหาต่างๆ ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้ดูแลประชาชน ให้ดีที่สุด ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้ได้ไปดูบ้าน ดูถนนที่ยังเดินทางไม่สะดวกสบาย ตอนนี้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานเข้ามารับทราบ และปฏิบัติให้ความช่วยเหลือให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว
ส่วนประเด็นที่ประชาชนอยากรู้ คือ เงินช่วยเหลือเยียวยาที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติไป 3,000 กว่าล้านบาท ขณะนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อนำเงินมามอบให้ประชาชนต่อไปให้เร็วที่สุด
นี่คือความตั้งใจ และความเป็นห่วงที่รัฐบาลมีให้แก่พี่น้องประชาชน และหน่วยงานต่างๆ ก็กำลังให้ความช่วยเหลือ ที่วิทยาลัยการอาชีวะก็ลงมาซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ เรื่องของอาหารการกินก็คงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องเพราะทราบดีว่าที่นี่บางบ้านน้ำมาเร็วกวาดสิ่งของไปหมด
- สั่งพาณิชย์เร่งจัดส่งข้าวสาร-น้ำดื่ม
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด และได้เน้นย้ำให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดดูแลอย่างเข้มงวดในเรื่องราคาและปริมาณสินค้าอุปโภค-บริโภค ของห้ามขาด ห้ามแพง
และได้สั่งการให้ศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมกระทรวงพาณิชย์ จัดหาสิ่งของจำเป็นเพิ่มเติม ทั้งของกินของใช้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม
โดยล่าสุดได้รับการสนับสนุนข้าวสารถุงจากผู้ประกอบการ จำนวน 2,000 ถุง และน้ำดื่มจากหน่วยงานสังกัดกระทรวงพาณิชย์เอง จำนวน 2,000 แพ็ค และส่งมอบไปยังพื้นที่จังหวัดหนองคายและจังหวัดบึงกาฬ แล้วในวันนี้ (21 ก.ย. 67)
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้แสดงความห่วงใยพี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมในทุกภูมิภาค โดยกระทรวงพาณิชย์จะร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในการช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยต่อไป
ทั้งนี้ หากพบปัญหาในเรื่องราคาและปริมาณที่ไม่เป็นธรรมสามารถแจ้งสายด่วน หมายเลข 1569 หรือแอปพลิเคชันไลน์ @MR.DIT หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ
- ปภ.รายงานมีน้ำท่วม 8 จว.
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่าในระหว่างวันที่ 16 ส.ค. – 22 ก.ย. 67 เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 32 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ เลย อุดรธานี หนองคาย นครพนม บึงกาฬ หนองบัวลำภู ปราจีนบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี ระยอง ชุมพร ภูเก็ต ยะลา นครศรีธรรมราช พังงา ตรัง และสตูล
รวม 172 อำเภอ 753 ตำบล 3,962 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 158,066 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตรวม 46 ราย และได้รับบาดเจ็บรวม 24 คน ซึ่งปัจจุบัน ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ลำปาง ตาก พิษณุโลก หนองคาย นครพนม พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี รวมพื้นที่ได้รับผลกระทบ 25 อำเภอ 121 ตำบล 565 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 16,960 ครัวเรือน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัย อาทิ เฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เครื่องสูบน้ำ รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว รถผลิตน้ำดื่ม รถไฟฟ้าส่องสว่างขนาด 200 KVA รถบรรทุกเล็ก รถลากเรือเคลื่อนที่เร็ว เรือท้องแบน อุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ
จากศูนย์ป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่ พื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในภาคอื่นที่ไม่มีสถานการณ์ภัย เข้าร่วมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ที่เกิดสถานการณ์ภัย รวมถึงช่วยฟื้นฟูถนนหนทาง อาคารบ้านเรือน ในพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด
ข่าวที่เกียวข้อง : น้ำมา ต้องป้องกัน “อนุทิน” กำชับ “ปภ. – ท้องถิ่น” สู้อุทกภัย ขอบคุณทุกความทุ่มเท