ททท.เปิดจุดขายสุขทันทีที่อีสานไฮซีซัน ธ.ค.66-ม.ค.67 เที่ยว “โคราช” 3 อำเภอ “วังน้ำเขียว-ปากช่อง- ปักธงชัย” เชื่อมโยงสู่ “ขอนแก่น” 4 แห่ง “วัดไชยศรี” ลุยต่อยอดสงกรานต์มรดกโลก “พิพิธภัณฑ์ธนารักษ์” ย้อนดูเศรษฐกิจทวารวดี “ศูนย์เรียนรู้ JUTATIP” ซอฟท์เพาเวอร์ผ้าชุมชน และ “The Wall” สตรีทอาร์ตแหล่งแฮงเอาท์ใหม่
- โคราชเปิดเมืองไฮซีซันเที่ยว เกษตรวังน้ำเขียว-วัฒนธรรมปากช่อง-จิมทอมป์สันฟาร์มปักธงชัย
- ขอนแก่นชูไฮไลต์ซอฟท์เพาเวอร์ “วัดไชยศรี-พิพิธภัณฑ์ธนารักษ์-ชุมชนผ้า-TheWall สตรีทอาร์ต”
- มหกรรมวังน้ำเขียวเฟสติวัล เทศกาลไหมนานาชาติขอนแก่น นักท่องเที่ยวตอบรับดี
นางสาวสมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.จัดทำตัวอย่างเส้นทางเชื่อมโยงและกิจกรรมงานเทศกาลภาคอีสานกระตุ้นนักท่องเที่ยวเดินทางช่วงหน้าหนาวเดือนธันวาคม2566-มกราคม 2567 นำเสนอเมืองท่องเที่ยวหลัก 2 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา กับขอนแก่น ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสามารถนำกิจกรรมการท่องเที่ยวสร้างรายได้เข้าสู่ชุมชนเติบโตอย่างเข้มแข็ง
การท่องเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมาไฮไลต์ 3 อำเภอ เริ่มจาก “อำเภอวังน้ำเขียว” ช่วงวันหยุดยาว 8-11 ธันวาคม2566 ประสบความสำเร็จในการจัดงาน “ วังน้ำเขียวเฟสติวัล ตอน ของขวัญจากป่า” ของ 2 หมู่บ้านคลองไทรและสุขสมบูรณ์ โดยได้นำเสนอการท่องเที่ยวเชิงเกษตรปลอดสารเคมี และวิถีวัฒนธรรมพิธีบวชป่าเชิญชวนนักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้าร่วมกิจกรรมปลูกต้นกาแฟแซมบริเวณป่าชุมชนบ้านคลองไทร มีส่วนร่วมลดคาร์บอนไดออกไซด์และลดโลกร้อน ปี 2567 จะต่อยอดพิธีบวชป่าขยายต่อไปยังชุมชนอื่นในวังน้ำเขียวซึ่งมีพื้นที่ล้อมรอบ 4 หมู่บ้าน
“อำเภอปักธงชัย” ท่องเที่ยว “จิมทอมป์สันฟาร์ม” ขณะนี้ได้เปิดฤดูให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมปีละ 1 ครั้ง ระหว่างวันนี้ – 2 มกราคม 2567 นำเสนอประสบการณ์ท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด “ไอเขียนเลตเตอร์ ถึงเธอ จิมทอมป์สัน” ซึ่งมีความโดดเด่นเวิถีวัฒนธรรมชาวอีสานผ่านกิจกรรมมากมายในพื้นที่กว่า 720 ไร่ มีบริการนั่งรถรางชมสถานที่ประกอบด้วย
หมู่บ้านอีสาน นิทรรศการ กิจกรรมเวิร์คช้อป กิจกรรม Talkให้ความรู้มิติต่าง ๆ นักท่องเที่ยวจะชมการทำอาหาร การผลิตเครื่องดื่มประเภทจากข้าวที่ปลูกอยู่ในฟาร์มกว่า 20 สายพันธุ์ รวมทั้งทุ่งดอกดาวกระจายสีเหลืองม่วง ขาว สลับสวยงามรอต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ
ค่าบัตรเข้าชมจิมทอมป์สันฟาร์ม อ.ปักธงชัย เด็กและผู้สูงอายุ วันจันทร์-อาทิตย์ คนละ 90 บาท ผู้ใหญ่ จันทร์-ศุกร์ คนละ 150 บาท ส่วนเสาร์-อาทิตย์ คนละ 200 บาท ช่วงวันธรรมดาจะมีนักท่องเที่ยวหมุนเวียนวันละ 1,000 คน วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ มีนักท่องเที่ยวประมาณวันละ 1,500 คน
“อำเภอปากช่อง” มี “Isan Isan Restaurant by Recall” ออกแบบพื้นที่กว่า 12 ไร่ ให้บริการร้านอาหารเมนูท้องถิ่นกับฟิวชั่น และห้องพักไลฟ์สไตล์ท่ามกลางธรรมชาติ สนนราคาคืนละ 2,000 บาทขึ้นไป/ห้อง/คืน ดีไซน์ผสมผสานวัฒนธรรมกลิ่นอายอีสาน โดยได้จัดให้มีลานกลางแจ้งฉายหนังกลางแปลง ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัว และคนวัยทำงาน
นางสาวสมฤดี กล่าวว่า ในจังหวัดขอนแก่น ททท.แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย ไฮไลต์ 4 แห่งประกอบด้วย แห่งที่ 1 “วัดไชยศรี” บ้านสาวะถี อำเภอชนบท มีสถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นคือ “สิมหรือพระอุโบสถ” เขียนด้วยภาพสีโบราณเกือบ 200 ปี บอกเล่าเรื่องราววรรณกรรมพื้นเมืองสินไซถ่ายทอดวิถีชีวิต คำสอนทางพระพุทธศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี อันงดงามของชาวอีสานจากรุ่นสู่รุ่นเป็นอย่างดี
ดังนั้น ททท.กำลังเตรียมเสนอต่อยอดเป็น 1 ในสงกรานต์มรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก ช่วงเทศกาลสงกรานต์ตลอดเดือนเมษายน 2567 วัดไชยศรีมีวัฒนธรรมพื้นที่จัดต่อเนื่องมายาวนานคือพิธีเสียเคราะห์โดยชาวบ้านรอบวัดจะมารวมตัวกันทำพิธีสำคัญดังกล่าวช่วงวันสงกรานต์ของทุกปี
แห่งที่ 2 พิพิธภัณฑ์ธนารักษ์จังหวัดขอนแก่น ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านเงินตราไทยที่สำคัญสะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการด้านเศรษฐกิจและสังคมตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันของภาคตะวันออกเฉียงเหนือและจังหวัดขอนแก่นภายในอาคาร 2 ชั้น จัดแสดง 3 นิทรรศการ ได้แก่
ส่วนที่ 1 นิทรรศการธนารักษ์พัฒนา บอกเล่าบทบาทของกรมธนารักษ์ มี 6 แห่ง ได้แก่ พิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์ พิพิธบางลำพู พิพิธตลาดน้อยพิพิธภัณฑ์ธนารักษ์จังหวัดเชียงใหม่ พิพิธภัณฑ์ธนารักษ์จังหวัดขอนแก่น พิธภัณฑ์ธนารักษ์จังหวัดสงขลา
ส่วนที่ 2 นิทรรศการเงินตราภาคอีสาน เป็นไฮไลต์ในการจำลองจัดแสดงนิทรรศการ 5 ห้อง ได้แก่ ห้องที่ 1 นาคา ผู้คนและเงินตรา จากตำนานสู่เรื่องราวบนแผ่นดินอีสาน นำเสนอตำนานก่อนยุคประวัติศาสตร์และการค้นพบโลหะแผ่นดินอีสาน ห้องที่ 2 มรดกภูมิปัญญาไทยใต้ผืนดินอีสาน จัดแสดงเงินตราสมัยทวารวดีจากวัฒนธรรมเขมรสู่แผ่นดินอีสาน
ห้องที่ 3 อาณาจักรล้านช้างยุคสมัยของความรุ่งเรืองบนดินแดนลุ่มน้ำโขง บอกเล่าความเป็นมาตั้งแต่อาณาจักรล้านช้างถึงเงินตราสมัยรัชกาลที่ 4 ห้องที่ 4 อีสานยุคใหม่ “สยามใหม่” สู่ “ระบบเศรษฐกิจเพื่อการค้า” ละลานตากับเหรียญกษาปณ์ของไทยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5-8
ห้องที่ 5 ห้องอีสานจากพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางการเมืองการปกครองสู่พื้นที่ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจปัจจุบันและอนาคต จัดแสดงเหรียญกษาปณ์และเหรียญที่ระลึกของไทย สมัยรัชกาลที่ 9-10
ส่วนที่ 3 นิทรรศการเรื่องเล่าเมืองขอนแก่น ถ่ายทอดความเป็นมาของขอนแก่นยุคปี 2500 ซึ่งรัฐกำหนดให้เป็นเมืองหลวงของอีสาน ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญและเป็นรากฐานการพัฒนาเมืองมาจนถึงปัจจุบันที่กำลังปูพรมสู่อนาคตให้กลายเป็นเมือง “Smart City” จึงได้จัดแสดง ห้องนิราศขอนแก่น ห้องขอนแก่นรากฐานจารกยุค “เมืองหลวง-อีสน”สู่ปัจจุบันและอนาคต ห้องแม่นหยังน้อสมาร์ต ซิตี้
แห่งที่ 3 ศูนย์เรียนรู้ JUTATIP ตั้งอยู่ในชุมชนเป็นแหล่งผลิตแบรนด์ผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติ เรียนรู้กระบวนการผลิตแบรนด์เน้นเรื่องการพัฒนาแฟชั่นอย่างยั่งยืนหรือ Sustainable Fashion ใช้วัตถุดิบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมก่อให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงเศรษฐกิจสีเขียวสร้างหมุนเวียนในพื้นที่หรือ BCG โดยใช้วัสดุผ้ามาร้อยต่อไร้ขยะหรือเป็นศูนย์นั่นเอง
แห่งที่ 4 สถานที่แฮงเอาท์ใหม่บริเวณ The wall khonkaen family space เป็นคอมมูนิตี้ มอลล์ ใจกลางเมือง นำย่านการค้าเดิมเคยทำกิจการยาแผนโบราณพระธรรมขันธ์โอสถ มาดีไซน์ขึ้นใหม่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ สไตล์สตรีท อาร์ตเพียบพร้อมด้วยศิลปินเต็มไปด้วยงานศิลปะ คาเฟ่สไตล์ Community Space ร้านอาหาร โฟโต้แกลอรี่ เวิร์คช้อป
อีกทั้งยังประสบความสำเร็จในการงานจัดท่องเที่ยว “เทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว งานกาชาดจังหวัดขอนแก่น” และงานขอนแก่นซอฟต์พาวเวอร์ ประจำปี 2566 เมื่อ 29 พฤศจิกายน -10ธันวาคม2566 จัดเป็นปีที่44 และเป็นปีที่ 11 ของการยกระดับการจัดงานไหมสู่ความเป็นนานาชาติ พร้อมทั้งได้ลงทุนจำลองหมู่บ้าน 26 อำเภอมาไว้บริเวณศาลากลางจังหวัดขอนแก่น การประกวดขบวนแห่งานไหมการแสดงและประกวดผ้าไหม การประกวดนางงามไหม การจัดคุ้มศิลปวัฒนธรรมออกร้านขายสินค้าโอท็อป สอดคล้องกับคอนเซปสุขทันทีที่ได้ท่องเที่ยวขอนแก่น
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen
