จุลพันธ์ รมช.คลัง เผยการประชุมคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการฯ กำหนดเปิดลงทะเบียน โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ก่อนสิ้นเดือน มี.ค.68 คาดประชาชนแห่ลงทะเบียนทะลุ 25 ล้านคน ย้ำผู้มีสิทธิเดิมไม่ต้องทำการลงทะเบียน พร้อมมอบ สศค. ดำเนินการทบทวนเกณฑ์ตรวจสอบคุณสมบัติ ให้มีความรัดกุมขึ้น ป้องคนจนไม่จริง เข้ามาสวมสิทธิ
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการ เพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ว่า วันนี้ (21 พ.ย.67) ที่ประชุมได้รับทราบและได้หารือถึงการเปิดลงทะเบียน โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ซึ่งมีกำหนดจะเริ่มก่อนสิ้นเดือน มี.ค.68
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นคาดว่า การเปิดลงทะเบียนรอบใหม่นี้ จะมีประชาชนลงทะเบียนมากกว่า 25 ล้านคน โดยในจำนวนนี้แบ่งเป็นผู้ที่มีสิทธิอยู่แล้วในปัจจุบัน 14.5 ล้านคน และอีก 10 ล้านคน ที่เป็นประชาชนกลุ่มใหม่ ที่ยังไม่เคยได้รับสิทธินี้มาก่อน โดยกลุ่มใหม่นี้ จะมาจากประชาชนที่อายุครบ 18 ปี หรือกลุ่มที่เคยลงทะเบียนแต่ไม่ได้รับสิทธิ
นายจุลพันธ์ กล่าวด้วยว่า ตัวเลขผู้ลงทะเบียนในรอบใหม่นี้ คาดจะใกล้เคียงกับรอบก่อน ที่มี 20 กว่าล้านคน โดยหลังจากผ่านการคัดกรองแล้ว คาดว่า จะมีผู้ได้รับสิทธิลดลงจากยอดที่คาดที่ 25 ล้านคน เหตุเนื่องมาจากขณะนี้เศรษฐกิจไทยถือว่าขยับกระเตื้องขึ้น รวมถึงรัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาต่อเนื่อง ซึ่งก็จะทำให้ประชาชนบางกลุ่มได้หลุดพ้นขยับตัวเองออกจากภาวะความยากจน
ทั้งนี้ สำหรับรายละเอียดการลงทะเบียนรอบใหม่ ของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในเบื้องต้นกลุ่มผู้มีสิทธิเดิม 14.5 ล้านคนจะไม่ต้องดำเนินการลงทะเบียนใหม่แต่อย่างใด โดยทางภาครัฐจะนำรายชื่อที่มีอยู่ ไปดำเนินการคัดกรองสิทธิแบบอัตโนมัติ ผ่านแนวหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้
ส่วนกลุ่มผู้ที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อนหน้า จะต้องดำเนินการลงทะเบียน โดยต้องเริ่มดำเนินการก่อนสิ้นเดือนมี.ค.68 โดยในจุดนี้ ได้มอบนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปเร่งดำเนินการศึกษาการลงทะเบียน ผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ และขั้นตอนการลงทะเบียนที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนอีกด้วย
นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังรับทราบถึงสวัสดิการที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน โดยเก็บข้อมูลแล้วพบว่า มีประชาชนที่ได้รับสิทธิ แต่ไม่ได้ไปยืนยันตัวตน และไม่ได้รับสวัสดิการกว่า 1 ล้านคน ซึ่งในจุดนี้ จะขอแจ้งไปถึงประชาชนกลุ่มดังกล่าว ให้ท่านเหล่านี้รับไปตรวจสอบสิทธิ ผ่านเว็บไซต์ Welfare.mof.go.th โดยด่วน จากนั้นให้เร่งดำเนินการยืนยันตัวตน ผ่านธนาคารกรุงไทย ให้แล้วเสร็จภายใน 26 ธ.ค.67 นี้ เพื่อรับสิทธิสวัสดิการที่เหลือ ซึ่งในจุดนี้จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลังแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการทำโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีการใช้งบประมาณกว่า 60,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งการลงทะเบียนตรวจสอบสิทธิในรอบใหม่ ทางภาครัฐก็มีความตั้งใจที่จะให้กระบวนการลงทะเบียนตรวจสอบคุณสมบัติ รู้ผลได้ภายใน ก.ค.68 เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดงบประมาณในปี 69
นายจุลพันธ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ตนยังได้สั่งการให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปดำเนินการทบทวนเกณฑ์ในการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ได้รับสิทธิ ให้มีความรัดกุมมากขึ้น ป้องกันไม่ให้คนจนไม่จริงเข้ามาสวมสิทธิรับประโยชน์จากโครงการนี้
โดยได้กำหนดให้ทาง สศค. นำกลับมาเสนอภายใน 1 เดือน ซึ่งในด้านเกณฑ์รายได้ครัวเรือน เบื้องต้นยังมีอยู่เหมือนเดิม ขณะที่เกณฑ์เรื่องการถือครองที่ดิน ก็จะทำให้สามารถตรวจสอบใช้ได้จริง อีกทั้งจะดูรายละเอียดในเรื่องสินทรัพย์การถือครองสลากและพันธบัตร ควบคู่ไปด้วย
อย่างไรก็ตาม การเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่นี้ ภาครัฐจะเน้นการตรวจสอบ การทบทวนสิทธิ และสวัสดิการ ให้เหมาะสมมากที่สุด อาทิ วงเงินการซื้อของจากร้านธงฟ้า ช่วยเหลือค่าก๊าซหุงต้ม ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ใช้สิทธิเพียง 40%
รวมไปถึงค่าเดินทาง โดยปัจจุบันยังพบว่า มีการใช้สิทธิคงเหลืออยู่จำนวนมาก ซึ่งก็ได้ให้ทาง สศค. กลับไปพิจารณาในประเด็นดังกล่าวนี้ด้วย และยังได้ขอให้ไปศึกษาเรื่องการเสริมทักษะ เสริมความสามารถของประชาชนในกลุ่มนี้เพื่อในอนาคตจะทำให้ประชาชนกลุ่มนี้ หลุดพ้นจากภาวะความยากจนให้ได้
ทั้งนี้ ในที่ประชุมยังได้หารือถึงการทบทวนสิทธิ โดยจากนี้จะมีการทบทวนเปิดลงทะเบียนในทุก 2 ปี ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) และจะมีการทบทวนคุณสมบัติผู้ได้รับสิทธิทุกๆ 8 เดือน โดยระหว่างทางหากตรวจสอบแล้วพบคุณสมบัติไม่ตามเกณฑ์ที่กำหนด ก็จะถูกตัดสิทธิออกเช่นกัน เพื่อให้มีความยุติธรรมที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ครม.ไฟเขียว ปรับกรอบระยะเวลาของการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นทุก 2 ปี