“สุริยะ” จับมือเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ผลักดันนโยบายท่อง เที่ยวเมืองรอง ของไทย หนุนเพิ่มเที่ยวบิน- ขยายเส้นทางบินตรงระหว่างกัน พร้อมจัดทำร่าง MOA ส่งเสริมการเดินทางระหว่างสองประเทศ
- เผยคมนาคมพร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยว และเพิ่มจุดบินระหว่างจังหวัดต่างๆ ของไทยกับจังหวัดไอจิให้มากขึ้น
- พร้อมเสนอให้ทำร่างความตกลง MOA เพื่อส่งเสริมการเดินทางของนักท่องเที่ยวไทย กับจังหวัดไอจิ
- อำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว ของทั้ง 2 ประเทศ ในการเดินทางไปยังจุดบินอื่น ๆ
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลัง นายโอตากะ มาซาโตะเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย นายโอมูระ ฮิเดอากิ ผู้ว่าราชการจังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่น เข้าพบเพื่อหารือเรื่องความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ตลอดจนขอรับการสนับสนุนจากกระทรวงคมนาคม ในการขยายเส้นทางการบินระหว่างประเทศไทยกับท่าอากาศยานนานาชาติ ชูบุ เซนแทรร์ จังหวัดไอจิ ว่า ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่คนไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยว ด้วยชอบทานอาหารญี่ปุ่น และวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น
โดยในปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นถึง 1,000,000 คน เพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับปีก่อนซึ่งจังหวัดที่คนไทยนิยมไปท่องเที่ยว ได้แก่ โตเกียว โอซาก้า เกียวโต ฮอกไกโด รวมถึงไอจิ เชื่อมั่นว่าจากการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดไอจิ นำคณะมาเยือนประเทศไทย จะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดไอจิ ด้วยจุดเด่นจากสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เช่น ปราสาทนาโกย่าปราสาทอินุยามะ และพิพิธภัณฑ์โตโยต้า เป็นต้น
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมมีความยินดีอย่างยิ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยว และเพิ่มจุดบินระหว่างจังหวัดต่าง ๆ ของไทยกับจังหวัดไอจิให้มากขึ้น สำหรับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่เดินทางมาประเทศไทยในปี 2566 มีจำนวน 805,768 คนถือเป็น 1 ใน 10 ประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังประเทศไทยมากที่สุด และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการหารือเกี่ยวกับการเพิ่มเที่ยวบินตรงไปจังหวัดไอจิครั้งนี้ จะนำไปสู่การแลกเปลี่ยนของจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากขึ้น
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีสายการบินที่บินตรงระหว่างกรุงเทพฯ ถึงท่าอากาศยานนานาชาติชูบู เซนแทรร์ ได้แก่การบินไทย 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ สายการบิน Air Asia X 4 เที่ยวต่อสัปดาห์ และสายการบิน All Nippon Airways 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ซึ่งการเพิ่มเที่ยวบินระหว่างท่าอากาศยานของไทยกับท่าอากาศยานนานาชาติชูบูเซนแทรร์ ภายใต้ความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศระหว่างไทยกับญี่ปุ่น ได้ให้สิทธิทั้งสองฝ่ายสามารถเพิ่มเที่ยวบินระหว่างกันได้อย่างไม่มีข้อจำกัด
หากจังหวัดไอจิประสงค์จะเพิ่มเที่ยวบิน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทย ตนมีความยินดีที่จะสนับสนุนให้เพิ่มเที่ยวบินและจุดบินอื่น ๆ ในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน เช่น ภูเก็ต กระบี่ ที่นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นนิยมเดินทางมาเยือน
อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคมมีแผนพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติในประเทศไทย อาทิ โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ (ทิศใต้) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 3 ท่าอากาศยานดอนเมือง โครงการก่อสร้างท่าอากาศยานอันดามัน จังหวัดพังงา และโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานล้านนา ซึ่งจะทำให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากขึ้น และสอดคล้องกับนโยบายการเพิ่มนักท่องเที่ยวระหว่างกัน
นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง ซึ่งมีความงดงามทางธรรมชาติและศิลปะวัฒนธรรมไม่แพ้เมืองหลัก จึงขอเชิญชวนนักลงทุนจากญี่ปุ่นมาลงทุนที่ประเทศไทย และขอให้จังหวัดไอจิประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเมืองรองของไทยด้วย
นอกจากนี้ ได้เสนอให้มีการจัดทำร่างความตกลง (MOA) เพื่อส่งเสริมการเดินทางของนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศไทยกับจังหวัดไอจิ ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกระทรวงคมนาคมกับจังหวัดไอจิ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศในการเดินทางไปยังจุดบินอื่น ๆ ไม่เพียงแต่กรุงเทพฯ เท่านั้น แต่ยังขยายไปยังท่าอากาศยานอื่น ๆ ที่ชาวญี่ปุ่นนิยมไปท่องเที่ยวด้วย เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต อุดรธานี และหาดใหญ่ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้กับทั้งสองฝ่าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ก.ท่องเที่ยว-คมนาคม หนุน ทัวร์ฟรี 10 วัน ปลุกเที่ยวกทม. 3 วัดดัง