เผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ลุยลงพื้นที่ ซอยวิภาวดี 5 พูดคุยกับประชาชน ชุมชนหลังหมอชิตเก่า รับปากเร่งนำปัญหาหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เผ่าภูมิ ลั่นเห็นความชัดเจนก่อน ส.ค.นี้ แน่นอน
- ย้ำเรื่องนี้ ต้องพิจารณาหลายมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และสถานการณ์ในปัจจุบัน
- ด้านอธิบดีกรมธนารักษ์ เด้งรับจ่อหารือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลั่นต้องทำตามข้อกฎหมาย
- ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่า โครงนี้มีความโปร่งใส มีทุจริตหรือไม่ ต้องรอประชุมกันก่อน
วันนี้ (7 มิ.ย.67) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยภายหลัง การลงพื้นที่ภายในซอยวิภาวดี 5 เพื่อพบปะพูดคุย กับประชาชนในพื้นที่ชุมชนหลังหมอชิตเก่า ที่ได้ไปยื่นหนังสือ เพื่อเรียกร้องขอคัดค้าน การต่ออายุพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) กำหนดแนวเวนคืนที่ดินชุมชนหลังหมอชิตเก่าว่า
วันนี้ที่ตนมา ก็เพื่อมารับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนในประเด็นดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อนำปัญหา และรวบรวมข้อมูลปัญหาทั้งหมด ไปหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง
ทั้งนี้ เนื่องจากมีหลายหน่วยงาน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวนี้ ซึ่งต้องพิจารณาหลายมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจด้านสังคมและสถานการณ์ในปัจจุบัน ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชน
นายเผ่าภูมิ กล่าวด้วยว่า โครงการที่จะสร้างทางยกระดับ เชื่อมโครงการหมอชิต คอมเพล็กซ์ ดังกล่าวนี้ เกิดขึ้นมายาวนานกว่า 30 ปี โดยเหตุการณ์ต่างๆ ได้เปลี่ยนแปลงไปในหลายๆด้าน ดังนั้นเรื่องนี้ ต้องใช้เวลาในการพิจารณา
ทั้งนี้ เบื้องต้นคาดว่า จะมีความชัดเจนก่อนเดือนส.ค. 67 นี้ เนื่องจากเป็นระยะเวลาที่จะสิ้นสุดตามพระราชกฤษฎีกากำหนดแนวเวนคืนที่ดินชุมชนหลังหมอชิตเก่า
นายเผ่าภูมิ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของข้อเสนอให้ยกเลิกการต่ออายุพระราชกฤษฎีกา กำหนดแนวเวนคืนที่ดิน ชุมชนหลังหมอชิตเก่านั้น ณ ตอนนี้ ตนไม่สามารถให้คำตอบได้ ซึ่งจากนี้คงต้องมาหารือ ร่วมพิจารณากันหลายฝ่าย และต้องเป็นไปอย่างถูกต้อง ตามข้อกฎหมายอย่างครบถ้วน โปร่งใส
ด้านนายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า กรมธนารักษ์ จะเร่งนัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเวนคืนที่ดินชุมชนหลังหมอชิตเก่า ตามคำสั่งของ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เพื่อสะสางปัญหา พร้อมทั้งสร้างความชัดเจน ให้ประชาชนที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว ได้รับทราบข้อมูล
ทั้งนี้ เบื้องต้นจะต้องหารือหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากการดำเนินการทุกอย่าง มีขั้นมีตอน ที่สำคัญคือต้องทำตามข้อกฎหมาย อย่างถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนประเด็นคำถามที่ว่า ถ้าโครงการมีความโปร่งใส ก็น่าจะเดินหน้าก่อสร้างแล้วเสร็จไปเนิ่นนานแล้ว คงไม่ปล่อยให้เวลาล่วงเลย มานานกว่า 30 ปี แสดงว่ามีประเด็นความไม่ชอบมาพากลหรือไม่นั้น
นายจำเริญ กล่าวตอบว่า ต้องรอให้มีการประชุมหารือ ถึงข้อกฎหมายทั้งหมดก่อน รวมถึงรายละเอียดโครงการอีกครั้งเพราะสิ่งที่เกิดขึ้น หรือหากจะตัดสินใจในด้านใดๆ ต้องมีเอกสารหลักฐานรองรับชัดเจน ต้องมีความถูกต้องตามข้อกฎหมาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : “ชัชชาติ” ขอกลับไปศึกษารายละเอียด หลังชาว ซ.ยาสูบ ยื่นคัดค้านการเวนคืนที่ดิน
