‘วิฑูรย์ เก่งงาน’ ทนายความบอสพอล เผยบอสพอล สั่งเตรียมสู้คดี งานนี้เตรียมพยานมากว่า 2,400 คน แย้มมีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยด้วย ถือเป็นคนที่เซอร์ไพรส์พอสมควร จะช่วยด้านกฎหมายเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่
- ลั่นจะทำให้ทางดีเอสไอ ได้เห็นอีกมุมมอง ที่จะไม่กล่าวหาบอสพอได้
- เผยตอนนี้หลักฐาน อยู่ในขั้นตอนการเตรียมเอกสาร แต่มีความพร้อมในระดับหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ย.67 ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัทน์พลวรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ถึงกรณีที่เดินทางเข้าไปสอบปากคำบอสพอล พร้อมกับเจ้าหน้าที่ กว่า 6 ชั่วโมง ว่า ตนได้เข้าไปดูบอสวิน กับบอสพอล ปมนักร้อง ก. เรียกรับเงินเท่านั้น
ส่วนกรณีที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้าแจ้งข้อกล่าวหา กรณีแชร์ลูกโซ่หรือยังนั้น ตนยังไม่ได้ประสานมา ซึ่งทางบอสพอลก็ทราบแล้วว่าทางดีเอสไอจะแจ้งข้อกล่าวหามา ได้สั่งให้เตรียมสู้คดี ซึ่งตนก็เตรียมพยานมาแล้วกว่า2,400 คน ซึ่งเป็นผู้ที่ยืนยันตัวตนมาแล้วกว่า 1,538 คน
รวมถึงมีผู้เชี่ยวชาญอีกหนึ่งคน ซึ่งถือว่าเป็นคนที่เป็นเซอร์ไพรส์พอสมควร โดยจะให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายที่เกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างดี มองว่าจะเป็นคนที่มีผลต่อการแก้ข้อกล่าวหา เพราะเป็นคนที่ให้ความรู้ และแง่คิดทางกฎหมายที่มีประโยชน์ต่อคดี และทำให้ทางดีเอสไอเห็นอีกมุมมอง ที่จะไม่กล่าวหาบอสพอ
ทั้งนี้ เมื่อถามถึงหลักฐานสำหรับเตรียมสู้คดีกับแชร์ลูกโซ่ มีความพร้อมแค่ไหนนั้น นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการเตรียมเอกสารแต่มีความพร้อมในระดับหนึ่ง ถ้าสามารถสอบพรุ่งนี้ได้เลย แต่ก็ต้องนำเอกสารมายื่นทีหลัง ซึ่งตอนนี้กำลังรวบรวมให้ครบ 2,400 คน ตามที่บอกไว้ ส่วนพยานใหม่ๆ ก็ต้องเดินสายหาเอา
นายวิฑูรย์ กล่าวต่อถึงกรณีที่มีดีเอสไอ เข้าสอบปากคำในวันศุกร์นี้ว่า ต้องมีการประสานตนมาก่อน ซึ่งตนก็ขอไม่เอาด้วย เพราะถ้าหากจะมาสอบสวนผู้ต้องหาของตน ก็ต้องมาด้วย เพราะมีห้องสอบสวนอยู่ห้องเดียว และมีผู้ที่ต้องสอบทั้งหมด 18 คน
ส่วนกรณีที่หากวันศุกร์นี้ จะแจ้งข้อกล่าวหาด้วยหรือไม่นั้น นายวิฑูรย์ กล่าวว่า หากแจ้งข้อกล่าวหาสามารถทำได้ แต่จะสอบปากคำนั้นก็ไม่สามารถทำได้ เพราะต้องมีการแจ้งข้อมูลประสานงาน ยืนยันว่ายังไม่มีการแจ้งข้อมูลกับตน
ทั้งนี้ ในส่วนการเตรียมพยานนั้นทางดีเอสไอ ได้สั่งให้ทำบัญชีพยานส่งมาให้ ซึ่งตนมองว่า ดีเอสไอจะได้มีเวลาตั้งประเด็นในเรื่องนั้นด้วย ซึ่งตอนนี้มีการเตรียมพยานที่ยืนยันตัวตนมา 1,500 ถ้าเหลืออีกประมาณ 900 คน ซึ่งจะพบพยานทั้งหมดในล็อตแรก โดยแบ่งกลุ่มเป็นตัวแทนระดับต่างๆ ว่าเป็นขายปลีกขายส่ง หรือขายออนไลน์ ซึ่งทางดีเอสไอ ก็ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องไปให้ปากคำตามสถานีตำรวจภูธร เพียงบอกว่าควรจะรีบพูดได้แล้ว เพราะพยานก็ทั่วประเทศ
นายวิฑูรย์ กล่าวด้วยว่า กรณีที่ดีเอสไอให้ส่งทำ พยานกว่า 2,000 คน ไม่สามารถทำให้ทัน ในเวลาที่กระชั้นชิด มองว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องหาด้วย หากแพ้คดีเขาก็จะติดคุกเสียอิสระภาพทันที ซึ่งตอนนี้ยังถือว่า เป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ มองว่าดีเอสไอเป็นกลางและเป็นธรรมสูง ไม่มองว่า การนำพยานเป็นการเข้ามาข่มขู่ เพราะอย่างคดีเล็กๆ ก็ต้องมีพยาน เพราะต้องให้ความเป็นธรรมกับฝั่งเราด้วย
”คดีความเป็นความยุติธรรม ก็ต้องเป็นความยุติธรรมแบบรวดเร็ว ไม่ใช่ความยุติธรรมรวดเร็วแบบชุ่ยๆ ก็ไม่ควรมี “ นายวิฑูรย์ กล่าว
นายวิฑูรย์ กล่าวด้วยว่า หากพยานให้ช้า ก็ต้องเป็นหน้าที่เจ้าพนักงานแบ่งกันไป สอบพยานแต่ไม่แน่ใจว่า ระยะเวลาจะทัน 84 วันหรือไม่ ก็ต้องปล่อยตัวผู้ต้องหาอยู่ดี แต่ยืนยันว่าไม่ยอมหากจะมาตัดพยาน