แนะนำประหยัดไฟฟ้าในช่วงฤดูร้อนโดยการ “ปิด – ปรับ – ปลด – เปลี่ยน”

การไฟฟ้านครหลวง คาดความต้องการใช้พลังไฟฟ้าสูงสุดปี 67 อยู่ที่ 9,934.25 เมกะวัตต์ พร้อมแนะนำการประหยัดไฟฟ้าในช่วงฤดูร้อนโดยการ “ปิด – ปรับ – ปลด – เปลี่ยน” และการใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัย

  • คาดความต้องการใช้พลังไฟฟ้าสูงสุดปี 67 อยู่ที่ 9,934.25 เมกะวัตต์
  • แนะการใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัย
  • ปิดไฟดวงที่ไม่ใช้ ปรับลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ

นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) เปิดเผยถึง สถิติการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ของ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ซึ่งประกอบด้วย กทม. นนทบุรี และสมุทรปราการ ว่า ตามที่ในช่วงฤดูร้อนจะเป็นช่วงฤดูที่มีการใช้ไฟฟ้ามากที่สุดในรอบปีนั้น

สำหรับปี 2567 จากจำนวนผู้ใช้ไฟฟ้าทั้งหมด 4,266,995 ราย MEA คาดการณ์ค่า Peak ในระบบจำหน่ายของ MEA ไว้ที่ 9,934 เมกะวัตต์ หรือเพิ่มขึ้น 1.2% จากปี 2566 ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือน เมษายน ถึงช่วงต้นเดือน พฤษภาคม เนื่องจากเป็นช่วงที่มีการใช้ไฟฟ้าสูง ประกอบกับสภาพอากาศร้อนเป็นอย่างมาก

ขณะที่หน่วยจำหน่ายไฟฟ้าของ MEA ทั้งหมดของปี 2567 คาดว่าจะมีจำนวน 53,994 ล้านหน่วย หรือเพิ่มขึ้น 0.1% จากปีที่ผ่านมา เนื่องจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว การใช้จ่ายและการลงทุนของภาคเอกชน การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของจำนวนรถยนต์ไฟฟ้า

ด้วยสาเหตุการใช้ไฟฟ้าที่มากขึ้นในช่วงฤดูร้อน MEA จึงมีการเตรียมพร้อมระบบจำหน่ายไฟฟ้า รวมถึงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาใช้สนับสนุนระบบไฟฟ้าให้มีความมั่นคงและเพียงพอ ต่อความต้องการของผู้ใช้ไฟฟ้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหัวใจสำคัญอย่าง ศูนย์ควบคุมระบบไฟฟ้า SCADA (Supervisory Control and Data Acquisition) ที่ทำหน้าที่เป็นระบบตรวจสอบ และวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ในการตรวจสอบสถานะ ตลอดจนวิเคราะห์การทำงานของระบบควบคุมตรวจจับข้อมูล แล้วส่งสัญญาณแจ้งเตือนให้เจ้าหน้าที่ทราบอย่างรวดเร็วแบบ Realtime

ทั้งนี้ MEA ได้แนะนำการประหยัดไฟฟ้าในช่วงฤดูร้อน ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่สภาพอากาศ มีอุณหภูมิสูงกว่าปกติส่งผลให้มีการใช้ไฟฟ้ามากขึ้น เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานมากขึ้น เป็นเหตุให้เสียค่าไฟมากขึ้น วิธีการที่จะช่วยให้ใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย คือ การหมั่นดูแล บำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าให้พร้อมใช้งานและปลอดภัยอยู่เสมอและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ดี

โดยยึดหลัก “ปิด – ปรับ – ปลด – เปลี่ยน” โดยปิดไฟดวงที่ไม่ใช้ ปรับลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศมาอยู่ที่ระดับ 26-27 องศาเซลเซียส พร้อมเปิดพัดลมควบคู่ จะเป็นการช่วยให้ประหยัดพลังงาน ปลดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งาน เปลี่ยนไปใช้เครื่องปรับอากาศที่มีค่าประสิทธิภาพสูง และหมั่นล้างเครื่องปรับอากาศ อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเปลี่ยนพฤติกรรมโดยไม่เปิด-ปิดตู้เย็นบ่อย ๆ พกกระติกน้ำแข็งไว้ดื่ม

รวมทั้งไม่ควรกักตุนอาหารไว้ในตู้เย็นเกินความจำเป็นตรวจขอบยางประตูตู้เย็นให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED เลือกใช้อุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้า (เบอร์ 5) และควรใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร ควรปิดสวิตช์และดึงปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกทุกครั้ง เมื่อไม่ได้ใช้งาน