Apple เปิดตัว iPhone 12 ใหม่ 4 รุ่น รองรับ 5G ทุกรุ่น ดีไซน์ใหม่หมดกับด้านหน้า Ceramic Shield เพิ่มความทนทาน

แอปเปิล ประกาศเปิดตัว iPhone 12 ใหม่ พร้อมกัน 4 รุ่น ทุกรุ่นรองรับ 5G กับงาน Apple Event โดย “ทิม คุก” ซีอีโอ ของแอปเปิล เป็นผู้เปิดงานเมื่อเที่ยงคืนของวันอังคารที่ผ่านมา  iPhone mini12, iPhone 12, iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max

เริ่มจาก iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max รุ่นท็อปสุด

ดีไซน์ใหม่กับ iPhone 12 Pro จอภาพขนาด 6.1 นิ้ว iPhone 12 Pro Max ขนาดหน้าจอ 6.7 นิ้ว มาพร้อมจอภาพ Super Retina XDR แบบขอบจรดขอบที่ใหญ่ขึ้นอย่างชัดเจนและมีขอบจอที่เล็กลง จอภาพขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาใน iPhone จอภาพ OLED ความละเอียดเกือบ 3.5 ล้านพิกเซล ด้านหน้า Ceramic Shield แบบใหม่หมดที่จะช่วยปกป้องตัวเครื่อง เรียกได้ว่าเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ที่สุดในด้านความทนทานสำหรับ iPhone 

นอกจากนี้ยังมีชิพที่เร็วที่สุดในสมาร์ทโฟนอย่าง A14 Bionic ที่ออกแบบโดย Apple เป็นขุมพลังขับเคลื่อนคุณสมบัติด้านการประมวลผลภาพถ่ายด้วยคอมพิวเตอร์อันน่าทึ่ง อย่าง Apple ProRAW แบบใหม่หมดที่ให้คุณควบคุมการสร้างสรรค์รูปภาพได้มากขึ้น และยังเป็นครั้งแรกที่จะได้สัมผัสประสบการณ์วิดีโอแบบ Dolby Vision สูงสุด 60 fps ตั้งแต่ต้นจนจบ ส่วนระบบกล้องโปรที่คิดขึ้นใหม่หมดนั้นมาพร้อมกล้องอัลตร้าไวด์ที่กว้างสุดๆ, กล้องเทเลโฟโต้ที่มีทางยาวโฟกัสสูงยิ่งขึ้นบน

iPhone 12 Pro Max และกล้องไวด์ใหม่ที่สามารถเก็บบันทึกภาพและถ่ายวิดีโออันสวยงามด้วยคุณภาพระดับมืออาชีพ ทั้งในที่ที่สว่างจ้าและในสภาวะแสงน้อย ยิ่งกว่านั้น iPhone 12 Pro ยังมีสแกนเนอร์ LiDAR ใหม่ ซึ่งจะมอบประสบการณ์ความจริงเสริม (AR) ที่เต็มอิ่มสมจริง รวมถึง MagSafe ซึ่งมาพร้อมการชาร์จแบบไร้สายกำลังสูง และระบบนิเวศของอุปกรณ์เสริมแบบใหม่ที่ยึดติดกับ iPhone ได้ง่ายอีกด้วย

iPhone 12 Pro Max ยกระดับประสบการณ์การใช้กล้องระดับโปรให้เหนือชั้นยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยกล้องไวด์ใหม่ที่มีรูรับแสงขนาด ƒ/1.6 พร้อมด้วยเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ขึ้น 47% และพิกเซลขนาด 1.7μm จึงสามารถถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ดีขึ้นมากถึง 87% ทั้งยังมาพร้อมกล้องอัลตร้าไวด์ที่กว้างสุดๆ และกล้องเทเลโฟโต้ทางยาวโฟกัส 65 มม. ที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นจากการเข้าใกล้สิ่งที่จะถ่ายได้มากขึ้น และทำให้ภาพดูแน่นขึ้น ซึ่งเมื่อรวมเข้าด้วยกันแล้ว ทำให้กล้องระบบนี้มีช่วงซูมแบบออปติคอลถึง 5 เท่า 

โหมดกลางคืนที่ดียิ่งกว่าเดิมช่วยให้ภาพมีความสว่างสดใสยิ่งขึ้น และวันนี้มาอยู่บนกล้อง TrueDept และกล้องอัลตร้าไวด์แล้ว และยังมีไทม์แลปส์ในโหมดกลางคืนที่เปิดรับแสงได้นานขึ้น จึงสามารถถ่ายวิดีโอได้คมชัดยิ่งขึ้น สร้างเส้นแสงได้สวยขึ้น และถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้เนียนขึ้นด้วยเมื่อใช้ขาตั้ง ส่วน Deep Fusion ที่วันนี้ดีและเร็วยิ่งกว่าเดิมก็มาอยู่ในกล้องทุกตัว พร้อมด้วย HDR อัจฉริยะ 3 ที่จะช่วยให้ผู้ใช้ได้ภาพที่สวยงามสมจริงยิ่งขึ้นแม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน

iPhone 12 Pro ถ่ายวิดีโอที่มีคุณภาพสูงที่สุดในสมาร์ทโฟน และเป็นกล้องตัวแรกและอุปกรณ์ตัวเดียวในโลกที่สามารถมอบประสบการณ์ Dolby Vision ตั้งแต่ต้นจนจบด้วยการบันทึกแบบ HDR สูงสุด 60 fps พร้อมด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหวสำหรับวิดีโอที่ดียิ่งขึ้นเพื่อการสร้างสรรค์ผลงานระดับภาพยนตร์ 

ทั้งสองรุ่นดีไซน์แบบสแตนเลสสตีลมีให้เลือก 4 สี ได้แก่สีกราไฟต์, เงิน, ทอง และแปซิฟิกบลู Phone 12 Pro ราคาเริ่มต้นที่ 999 ดอลลาร์สหรัฐและ iPhone 12 Pro Max ราคาเริ่มต้นที่ 1,099 ดอลลาร์สหรัฐ จะมีให้เลือกระหว่างรุ่นความจุ 128GB, 256GB และ 512GB

สำหรับ iPhone 12 และ iPhone 12 mini

ได้รับการออกแบบใหม่ iPhone 12 mini มีขนาดจอ 5.4 นิ้ว เป็นรุ่นที่เล็กที่สุด บางที่สุด และเบาที่สุดในโลกเ ซึ่งได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมขึ้นมาใหม่ เพื่อนำเทคโนโลยีใน iPhone 12 ลงมาในรูปแบบดีไซน์กะทัดรัดพกพาสะดวก  iPhone 12 ขนาดจอ  6.1 นิ้ว ทั้งสองรุ่นจอแบบ OLED ดีไซน์ด้านหน้าแบบ Ceramic Shield โดย iPhone 12 ราคา 799 ดอลลาร์สหรัฐและ iPhone 12 mini ราคา  699 ดอลลาร์สหรัฐ

iPhone 12 และ iPhone 12 mini มาในดีไซน์อะลูมิเนียมที่มี 5 สีสันสวยงามให้เลือกได้แก่ น้ำเงิน เขียว ดำ ขาว และ (PRODUCT) RED