Apple จัดงานอีเวนท์ใหญ่ เปิดตัว 5 ผลิตภัณฑ์ใหม่ นำโดย ‘ทิม คุก’ ซีอีโอ ของ Apple ประเดิมด้วย iPad Pro โดดเด่นด้วยชิป M1 ที่ออกแบบโดย Apple ยกระดับประสิทธิภาพการทำงานแบบก้าวกระโดดและทำให้เป็นอุปกรณ์ที่เร็วที่สุดในบรรดาอุปกรณ์ประเภทเดียวกัน โดย iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้วมาพร้อมจอภาพ Liquid Retina XDR ใหม่ รุ่นเซลลูลาร์พร้อม 5G
พอร์ต Thunderbolt ที่ช่วยให้ผู้ใช้ระดับโปรเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมความเร็วสูงได้แล้ววันนี้ ยิ่งไปกว่านั้น กล้องหน้าอัลตร้าไวด์แบบใหม่หมดยังมาพร้อมคุณสมบัติ Center Stage ซึ่งเป็นคุณสมบัติใหม่ที่จะช่วยทำให้คุณอยู่ตรงกลางเฟรมโดยอัตโนมัติ เพื่อประสบการณ์การใช้งานวิดีโอคอลที่ดึงดูด
เตรียม เปิดให้สั่งซื้อโดยเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 30 เมษายน เป็นต้นไปทาง apple.com/th และจะวางจำหน่ายในแอป Apple Store ใน 31 ประเทศ
- iPad Pro รุ่น 11 นิ้วและ 12.9 นิ้วใหม่จะวางจำหน่ายในสีเงินและสีเทาสเปซเกรย์ iPad Pro มีวางจำหน่ายในรุ่นความจุ 128GB, 256GB, 512GB, 1TB และ 2TB3 ซึ่งช่วยให้ลูกค้าระดับโปรมีพื้นที่มากขึ้นสำหรับแอปและคอนเทนต์
- iPad Pro รุ่น 11 นิ้วมีราคาเริ่มต้นที่ 27,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ 32,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular และ iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้วมีราคาเริ่มต้นที่ 37,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ 42,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular ที่ apple.com/th
iPhone 12 และ 12 mini ใหม่สวยสะดุดตา
ตัวเครื่องสีใหม่นี้ช่วยขับเน้นขอบอะลูมิเนียมแบบแบนของ iPhone 12 ให้โดดเด่น ซึ่งเข้ากับสีกระจกด้านหลังที่ได้รับการตัดแต่งอย่างแม่นยำได้ลงตัว ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับระบบกล้องคู่ที่มอบคุณสมบัติการถ่ายภาพเชิงคำนวณอันทรงพลังและคุณภาพวิดีโอที่สูงที่สุดในสมาร์ทโฟน จอภาพ Super Retina XDR ที่กว้างแบบขอบจรดขอบพร้อมด้วย OLED ที่จะมอบประสบการณ์การรับชมที่เต็มอิ่มเต็มตายิ่งขึ้น ส่วนด้านหน้าแบบ Ceramic Shield มอบความทนทานที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดแก่ iPhone แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน A14 Bionic ที่ออกแบบโดย Apple เป็นชิปที่เร็วที่สุดในสมาร์ทโฟนซึ่งมอบพลังให้กับทุกการใช้งานบน iPhone 12 พร้อมกับจัดการให้แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น นอกจากนี้ iPhone 12 ยังมอบประสบการณ์ใช้งาน 5G ที่ดีที่สุด อีกทั้งยังแนะนำการชาร์จไร้สายแบบใหม่อันทรงพลังด้วย MagSafe® และระบบนิเวศของอุปกรณ์เสริมที่ติดกับ iPhone ได้อย่างง่ายดาย
iPhone 12 และ iPhone 12 mini สีม่วงจะเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าในวันศุกร์ที่ 23 เมษายนและจะเริ่มวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 30 เมษายน ราคาเริ่มต้นที่ 29,900 บาทสำหรับ iPhone 12 ความจุ 64GB และ 25,900 บาท สำหรับ iPhone 12 mini
iMac ดีไซน์ใหม่อันน่าทึ่งมาพร้อมกันถึง 7 สี
iMac รุ่นใหม่หมด ที่มาพร้อมกับดีไซน์ที่บางเพียง 11.5 มม. ทำให้มุมมองด้านข้างบางเฉียบจนเหมือนไม่มีเครื่องอยู่ตรงนั้นทรงพลังด้วยชิป M1 มีสีสันอันสวยสดให้เลือกถึง 7 สี ได้แก่สีเขียว สีเหลือง สีส้ม สีชมพู สีม่วง สีฟ้า และสีเงิน ให้เลือกจับคู่กับสไตล์เฉพาะตัวของผู้ใช้งานและเพิ่มความสว่างสดใสให้กับทุกพื้นที่
มาพร้อมกับจอภาพ Retina 4.5K ขนาด 24 นิ้ว ความละเอียด 11.3 ล้านพิกเซล ความสว่างถึง 500 นิต และการรองรับสีสันได้มากกว่า 1 พันล้านสี ให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การดูที่สวยสะกดตาและมีชีวิตชีวา
กล้อง FaceTime HD ระดับ 1080p, ไมโครโฟนคุณภาพระดับสตูดิโอ และระบบเสียง 6 ลำโพง เป็นครั้งแรกที่ใช้ Touch ID บน iMac หรือการสลับโปรไฟล์ผู้ใช้อย่างปลอดภัยทำได้ง่ายยิ่งกว่าที่เคย เพียงปลายนิ้วสัมผัส มี Magic Keyboard ที่ทำจากอะลูมิเนียมให้เลือก 3 รุ่น ในสีที่เข้ากัน
พร้อมให้สั่งซื้อตั้งแต่วันศุกร์ที่ 30 เมษายนที่ apple.com/th และในแอป Apple Store ราคาเริ่มต้นที่ 42,900 บาท ในรุ่นที่มี GPU แบบ 7-core
Apple TV 4K เจเนอเรชั่นใหม่
สำหรับ Apple TV 4K มาพร้อม HDR ที่มีอัตราเฟรมสูงในแบบ Dolby Vision และให้ลูกค้าเข้าถึงคอนเทนต์โปรดที่มีคุณภาพสูงที่สุด หัวใจสำคัญคือ ชิป A12 Bionic ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านกราฟิก การถอดรหัสวิดีโอ และการประมวลผลเสียงอย่างเห็นได้ชัด และด้วย Apple TV Remote ที่ออกแบบมาใหม่ ทำให้การดูรายการและภาพยนตร์บน Apple TV ง่ายยิ่งกว่าเดิม
ด้วยการควบคุมเพื่อไปยังส่วนต่างๆ ที่ใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติ ยิ่งเมื่อทำงานร่วมกับ tvOS ระบบปฏิบัติการสำหรับทีวีก็สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์และบริการจาก Apple ได้อย่างไร้รอยต่อ รวมไปถึงแอปนับพันบน App Store เพื่อตัวเลือกด้านความบันเทิงอีกมากมายได้อย่างง่ายๆ
ราคาเริ่มต้นที่ 6,700 บาท จะวางในเร็วๆ นี้ที่ apple.com/th ทางแอป Apple Store และที่ Apple Store สาขาต่างๆ
สิ่งของสำคัญจะไม่หายอีกต่อไปด้วย AirTag
Apple ได้ขยายระบบนิเวศของแอปค้นหาของฉันหรือ Find My ด้วย AirTag ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริม iPhone เป็นอุปกรณ์เสริมชิ้นเล็กที่เรียบหรูดูดีเพื่อช่วยติดตามและค้นหาสิ่งของสำคัญด้วยวิธีที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว
ติด AirTag ไว้กับกระเป๋าถือ กุญแจ กระเป๋าเป้ หรือสิ่งของอื่นๆ AirTag ก็จะอาศัยเครือข่ายค้นหาของฉัน1 ที่กว้างไกลทั่วโลกเพื่อระบุตำแหน่งสิ่งของที่หายไป และขณะเดียวกันยังมีการเข้ารหัสข้อมูลตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งโดยไม่มีการระบุตัวตน AirTag มีจำหน่ายในแบบแพ็ค 1 ชิ้น และ 4 ชิ้นในราคา 990 บาท และ 3,990 บาท ตามลำดับ
