Apple ประกาศเปิดตัวโครงการสำหรับธุรกิจขนาดเล็กรายได้ไม่ถึง 1 ล้านดอลลาร์ต่อปีใน App Store ลดค่าคอมเหลือ 15%

Apple ประกาศเปิดตัวโครงการนักพัฒนาใหม่ชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรมเพื่อผลักดันนวัตกรรม และช่วยธุรกิจขนาดเล็กและนักพัฒนาอิสระในการขับเคลื่อนธุรกิจของตนให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยแอพสุดล้ำเจเนอเรชั่นถัดไปใน App Store โครงการสำหรับธุรกิจขนาดเล็กใน App Store ใหม่ จะเป็นประโยชน์ยิ่งกับนักพัฒนาส่วนใหญ่ที่จำหน่ายสินค้าและบริการในรูปแบบดิจิทัลบนร้านค้าของเรา โดยช่วยลดค่าคอมมิชชั่นจากแอพที่มีการซื้อและการซื้อภายในแอพ นักพัฒนาสามารถเข้าร่วมโครงการและลดค่าคอมมิชชั่นเหลือเพียง 15% ได้ หากว่ามีรายได้ไม่เกิน 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในระหว่างปีปฏิทินก่อนหน้า

โครงการสำหรับธุรกิจขนาดเล็กใน App Store จะเปิดตัวในวันที่ 1 มกราคม 2564 ซึ่งเป็นช่วงเวลาอันสำคัญที่เหล่านักพัฒนารายย่อยเดินหน้าทุ่มเทอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ในช่วงเวลาที่ระบบเศรษฐกิจของโลกกำลังเผชิญกับความยากลำบากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แอพต่าง ๆ ได้ก้าวขึ้นมามีส่วนสำคัญยิ่งขึ้นเมื่อธุรกิจต้องปรับตัวให้เข้ากับโลกเสมือนจริงในระหว่างสถานการณ์โรคระบาด และธุรกิจขนาดเล็กมากมายได้เปิดตัวหรือสร้างชื่อของตนในโลกดิจิทัลอย่างรวดเร็วเพื่อการเข้าถึงลูกค้าและชุมชนของตนอย่างไม่หยุดยั้ง ค่าคอมมิชชั่นที่ลดลงของโครงการ ช่วยให้นักพัฒนารายย่อยและผู้ประกอบการที่มีความมุ่งมั่นมีทรัพยากรมากยิ่งขึ้นสำหรับการลงทุนและขยายธุรกิจของตนในระบบนิเวศของ App Store

“ธุรกิจขนาดเล็กถือเป็นหัวใจสำคัญของระบบเศรษฐกิจโลก และตัวขับเคลื่อนนวัตกรรมและโอกาสในชุมชนต่างๆ ทั่วโลก เราเปิดตัวโครงการนี้เพื่อช่วยเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กในการต่อยอดความคิดสร้างสรรค์และความสำเร็จครั้งใหม่ใน App Store พร้อมกับพัฒนาแอพชั้นยอดที่ลูกค้าของเราชื่นชอบ” Tim Cook, CEO ของ Apple กล่าว “App Store ได้กลายมาเป็นกลไกขับเคลื่อนการพัฒนาทางเศรษฐกิจอันแสนวิเศษ ที่สร้างสรรค์งานใหม่ ๆ ได้นับล้าน และเส้นทางสู่การเป็นผู้ประกอบการที่ใคร ๆ ก็เป็นได้ ขอเพียงแค่มีไอเดียดีๆ โครงการใหม่ของเราจะนำพาความเจริญก้าวหน้าให้ก้าวออกไปได้ไกลยิ่งกว่า ด้วยการช่วยเหลือนักพัฒนาให้มีเงินทุนสำหรับธุรกิจขนาดเล็กของตน รับความเสี่ยงจากไอเดียใหม่ ๆ ขยายทีม และสร้างสรรค์แอพที่ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนได้อย่างไม่หยุดยั้ง”

แม้ว่ารายละเอียดที่ครอบคลุมจะตามมาในต้นเดือนธันวาคม แต่ส่วนสำคัญของหลักเกณฑ์การเข้าร่วมโครงการนั้นก็เรียบง่ายมาก:

  • นักพัฒนาที่มีอยู่เดิมที่ทำรายได้ไม่เกิน 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2020 จากแอพทั้งหมดของตน รวมไปถึงนักพัฒนาหน้าใหม่ใน App Store สามารถเข้าร่วมโครงการและลดค่าคอมมิชชั่นลงได้ 
  • หากนักพัฒนาที่เข้าร่วมมีรายได้เกินหลักเกณฑ์ 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จะมีการปรับใช้อัตราค่าคอมมิชชั่นมาตรฐานตลอดระยะเวลาที่เหลือของปีดังกล่าว 
  • หากธุรกิจของนักพัฒนามีรายลดลงเหลือต่ำกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีปฏิทินข้างหน้า จะสามารถเข้าร่วมโครงการลดค่าคอมมิชชั่นเหลือ 15% ได้อีกในปีหลังจากนั้น 

อัตราค่าคอมมิชชั่นมาตรฐานของ App Store ที่ 30% จะยังคงมีผลกับแอพที่จำหน่ายสินค้าและบริการในรูปแบบดิจิทัลและสร้างรายได้มากกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยพิจารณาจากรายรับก่อนหักค่าคอมมิชชั่นของนักพัฒนา ผลการศึกษาอิสระของ Analysis Group เมื่อต้นปีนี้พบว่า โครงสร้างค่าคอมมิชชั่นของ Apple อยู่ในกระแสหลักของแพลตฟอร์มการเล่นเกมและการแจกจ่ายแอพ

เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กจะยังคงได้รับประโยชน์จากชุดเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาที่เหนือชั้นของ Apple รวมไปถึงแอพพลิเคชั่นสำหรับการพัฒนา ภาษาโปรแกรม อินเทอร์เฟซการชำระเงินที่ปลอดภัย และองค์ประกอบหลักซอฟต์แวร์ที่สำคัญมากกว่า 250,000 รายการที่เรียกว่า API Apple มุ่งมั่นที่จะมอบเครื่องมือให้กับนักพัฒนาเพื่อเปลี่ยนสุดยอดไอเดียของพวกเขาให้กลายเป็นแอพที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ เครื่องมือต่างๆ เช่น HealthKit ที่ช่วยให้วิศวกรสามารถเข้าใช้งานข้อมูลสุขภาพของผู้ใช้ได้อย่างปลอดภัย, ARKit® ที่ให้ขุมพลังกับนักพัฒนาในการเข้าไปสัมผัสกับขอบเขตใหม่ๆ ของโลกความจริงเสริม และ Core ML® ที่ให้ใช้ประโยชน์จากความเร็วและความชาญฉลาดของการเรียนรู้ของระบบเพื่อช่วยนักพัฒนาในการสร้างคุณสมบัติอันทรงพลังต่างๆ ได้ด้วยโค้ดเพียงไม่กี่บรรทัด 

การได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้และนักพัฒนาถือเป็นเป้าหมายสำคัญของ App Store มาตั้งแต่แรกเริ่ม นั่นคือเหตุผลที่ทุก ๆ แอพจาก 1.8 ล้านแอพ ใน App Store ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบที่นักพัฒนาและลูกค้าของพวกเขาไว้ใจได้ กระบวนการนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าทุกแอพนั้นเชื่อถือได้ ทำงานได้อย่างที่คาดหวัง ปราศจากเนื้อหาที่กวนใจ และรองรับมาตรฐานระดับสูงสุดในการปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้ 

นักพัฒนาทุกระดับได้สร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จขึ้นไปพร้อม ๆ กับได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงทั่วทั้งโลกของ App Store ที่มีผู้ใช้อุปกรณ์ของ Apple รวมกันมากกว่า 1,500 ล้านชิ้นทั่วโลก ใน 175 ประเทศและมากกว่า 40 ภาษา พร้อมวิธีการชำระเงินท้องถิ่นมากกว่า 180 รูปแบบและ 45 สกุลเงิน เฉพาะปี 2019 เพียงปีเดียว ระบบนิเวศของ App Store ก่อให้เกิดมูลค่าทางการค้าทั่วโลกถึง 519,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมูลค่าที่เกิดขึ้นจากนักพัฒนาและธุรกิจของบริษัทอื่นในทุกขนาดนั้นมี มากกว่า 85% โครงการสำหรับธุรกิจขนาดเล็กใน App Store ใหม่ จะสานต่อความรุดหน้าดังกล่าวเพื่อสร้างนวัตกรรมด้านแอพและการค้าในรูปแบบดิจิทัลให้มากขึ้นไปอีก รองรับงานใหม่ ๆ และช่วยนักพัฒนารายย่อยในการมอบซอฟต์แวร์ชั้นยอดให้กับผู้ใช้ของ Apple อย่างต่อเนื่อง 

App Store เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2008 โดยถือเป็นตลาดแอพที่ปลอดภัยและคึกคักที่สุดในโลก ซึ่งในปัจจุบันมีแอพอยู่ 1.8 ล้านแอพและมีผู้ใช้เข้ามาเยี่ยมชมในแต่ละสัปดาห์ราว ๆ 500 ล้านคน ที่แห่งนี้ช่วยให้ผู้สร้างสรรค์ ผู้มีความฝัน และผู้เรียน ซึ่งไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่หรือมีพื้นฐานแบบไหนก็สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องมือและข้อมูลที่พวกเขาต้องการ เพื่อให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นและมีอนาคตที่สดใสยิ่งขึ้น