- วางกรอบทำงานแต่ละหน่วยงานรับมือผลกระทบ
- เน้นทำแผนดันส่งออก-ค้าชายแดน-เจรจาการค้า
- ปลัดพาณิชย์ย้ำให้ทำแผนระยะสั้น3-6เดือนและ1ปี
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะทำงานรองรับสถานการณ์การค้า (วอร์รูม) ที่จัดตั้งขึ้นตามมติของคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) ที่มีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เป็นประธาน เป็นครั้งแรกว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ติดตามสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน อย่างใกล้ชิด และทำแผนรับมือ ซึ่งจะต้องดำเนินการควบคู่กันทั้งด้านการรับมือการเบี่ยงเบนทางการค้า การรุกตลาดและการส่งออก การเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และการลงทุน
ส่วนด้านการส่งออก มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ พิจารณาแผนส่งเสริมการส่งออก ส่งเสริมตลาด ที่จะดำเนินการในช่วง 3-6 เดือน และช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) ให้เข้าถึงตลาดใหม่ได้ หรือผลักดันให้ทำประกันความเสี่ยงค่าเงิน , ด้านการค้าชายแดน ให้กรมการค้าต่างประเทศทำหน้าที่ขับเคลื่อน โดยหารือกับประเทศเพื่อนบ้านหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และปลดล็อกกฎระเบียบหรืออุปสรรคต่างๆ โดยเร็วที่สุด ขณะที่ด้านการเจรจาการค้า มอบให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เดินหน้าการเจรจาการค้า ทั้งกรอบความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) และความร่วมมือระหว่างประเทศ ทั้งระดับทวิภาคี พหุภาคี หรือภูมิภาค
สำหรับการอำนวยความสะดวกทางการค้า มอบให้กรมการค้าต่างประเทศ สนค. ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดัน เช่น ใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการค้าระหว่างประเทศ, กฎหมาย ระเบียบ และมาตรการทางการค้า ให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และกรมการค้าต่างประเทศ ช่วยกันติดตามและแจ้งเตือนอุปสรรคมาตรการที่มิใช่ภาษีของอาเซียน และแก้ไขปัญหาเร่งด่วน นอกจากนี้ ให้ติดตามประเด็นการค้าที่อาจจะส่งผลกระทบต่อไทย เช่น การออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร (เบร็กซิต) ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันภาพรวมเศรษฐกิจการค้าโลก และกระทบต่อโครงสร้างการส่งออกของไทย
“ขอให้แต่ละหน่วยงาน ไปทำแผนระยะสั้น 3-6 เดือน ระยะกลาง 1 ปี โดยให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภาคเอกชน เพื่อให้การทำงานตอบสนองต่อสถานการณ์ปัจจุบันได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และให้รายงานความคืบหน้าต่อที่ประชุม กรอ.พาณิชย์ครั้งต่อไปภายในช่วงปลายเดือนก.ย.62”
