7 วิธีสามัญประจำบ้าน เพิ่ม “ภูมิคุ้มกัน” ต้านทานโรค

ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย และในช่วงหลังๆ ดูเหมือนว่า อุณหภูมิจะแกว่งขึ้นลงอย่างรวดเร็ว บางวันที่ 3 ฤดูทั้งหนาว ฝน ร้อน ยิ่งช่วงนี้ ฝุ่น PM 2.5 ในอากาศเกินมาตรฐานเข้าไปอีก แถมโรคระบาด โรคใหม่ๆ ยังเกิดขึ้นต่อเนื่องไม่เว้นแต่ละวัน

การมีร่างกายที่แข็งแรง มีจิตใจที่สดชื่น จะช่วยให้เราต่อสู้กับโรคได้ดีขึ้น แต่จะมีวิธีอย่างไรที่จะสร้าง “ภูมิคุ้มกัน” ของร่างกายให้เพิ่มขึ้น ช่วยต้านทานโรคได้มากขึ้น มี 7 วิธีง่ายๆ ทำได้เป็นประจำ ไม่ยุ่งยากเหมือนแค่สูตร “ยาสามัญประจำบ้าน” มาบอกกัน

วิธีที่ 1 กินอาหารให้ครบ 5 หมู่

หลายคนงดเนื้อ บางคนงดแป้ง บางคนงดไขมัน บางคนไม่กินผัก ตามหลักโภชนาการที่ถูกต้องนั้น ทุกสิ่งอย่างเกื้อกูลและประสานกัน เพื่อสร้างพลังงานและภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ดังนั้น ไม่ควรหยุดกินอาการในหมู่ใด เพียงแต่ลดลงตามความเหมาะสม และจำเป็น

บางตำรา แนะให้ทานอาหารที่มีฤทธิ์เป็นกรดและด่างให้เท่าๆ กัน ซึ่งจะส่งผลดีต่อร่างกายมากกว่าที่จะทานฝั่งใดฝั่งหนึ่งมากเดินไป โดยอาหารที่เป็นกรดได้แก่ เนื้อสัตว์ ไข่ ขนมปัง นม เนย น้ำตาล รวมไปถึงเครื่องดื่มอย่างน้ำอัดลม กาแฟ ส่วนอาหารที่มีความเป็นด่างได้แก่ ผักและผลไม้ ซึ่งเมื่อรับประทานอาหารเหล่านี้ให้มีความสมดุล ก็จะช่วยให้ร่างกายทำงานได้ดียิ่งขึ้น

วิธีที่ 2 ห้ามลืม “วิตามินซี”

ในช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ การทานผักและผลไม้ให้หลากหลาย จะทำให้ร่างกายได้รับปริมาณวิตามินซี และใยอาหารที่จะเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย โดยเฉพาะ “วิตามินซี” มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดี ไม่เก็บของเสียไว้ โดยปริมาณที่ควรได้รับคือ อย่างน้อย 400 มิลลิกรัมต่อวัน

วิธีที่ 3 ไม่อ้วนเอาเท่าไร

มีการศึกษาว่า ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน (BMI >22.9 kg/m2) มีโอกาสที่จะป่วยเป็นหวัดได้นานกว่าผู้ที่มีน้ำหนักตัวปกติ 1.5 เท่า รวมทั้งมีโอกาสที่จะเป็นโรคร้ายแรงได้มากกว่าคนน้ำหนัดปกติเช่นกัน ดังนั้น รักษาระดับน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติจะดีที่สุด

วิธีที่ 4 กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ

ควรล้างมือก่อนการปรุงอาหาร และก่อนทานอาหารเพื่อป้องกันการได้รับเชื้อโรคจากภายนอกเข้าสู่ร่างกาย กินอาการที่ปรุงสุกใหม่ และไม่กินอาหารร่วมกับผู้อื่น โดยไม่ใช้ช้อนกลาง

วิธีที่ 5 กีฬาๆ เป็นยาวิเศษ

ออกกำลังกายวันละ 30 นาที ช่วยเพิ่มการหมุนเวียนของเลือด ช่วยให้เม็ดเลือดขาวสามารถเก็บกินสิ่งแปลกปลอมได้มากขึ้น แข็งแรง เพิ่มจำนวนได้ดีขึ้น ทำให้โอกาสเป็นหวัด หรือโรคอื่นๆ น้อยลง นอกจากนั้น การออกกำลังกายสม่ำเสมอ ยังช่วยให้หัวใจสูบฉีดเลือดเพื่อนำไปเลี้ยงร่างกายได้ดีมากขึ้น ทำให้เซลล์แต่ละเซลล์ได้รับออกซิเจนเพียงพอ เพิ่มความแข็งแรงมากขึ้น ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันสามารถทำงานได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

วิธีที่ 6 แค่หลับไปให้สนิท

การนอนหลับให้เพียงพอ อย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมงต่อวัน ทำให้ร่างกายได้ผ่อนคลายความตึงเครียด คลายกังวล เพราะขณะหลับร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนินที่เปรียบเสมือนนาฬิกาของร่างกาย ทำให้ร่างกายทำงานได้ตามปกติและเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกายได้

ขณะที่การเข้านอนก่อน 4 ทุ่ม จะช่วยให้ร่างกายหลั่งโกรทฮอร์โมนได้ในปริมาณมาก โดยสารนี้จะช่วยชะลอวัย สมองจะได้รับการฟื้นฟู เกิดความกระปรี้กระเปร่า

ทั้งนี้ ท่านอนควรเหยียดตรง ไม่ขดงอ และภายในห้องควรมืดสนิท

วิธีที่ 6 ไม่คบบุหรี่-แอลกอฮอล์

หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ ซึ่งเป็นสาเหตุให้ร่างกายอ่อนแอลง และเป็นสาเหตุของโรคร้ายแรงจำนวนมาก

วิธีที่ 7 หมั่นตรวจสุขภาพ-ฉีดวัคซีนตามคำแนะนำของแพทย์

การไปตรวจสุขภาพจะช่วยให้เราเข้าใจสุขภาพของตัวเอง และหากพบกับโรคร้ายก็จะทำให้เรารับมือได้อย่างทันท่วงที เรียกว่าเป็นการป้องกัน ดีกว่าการแก้ภายหลัง ซึ่งอาจจะยากมากกว่า